“จีนกำลังผ่านช่วงการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ในหลายด้าน และเราคาดว่าจีนจะไม่เผชิญกับภาวะ hard landing ตามที่ได้มีการพูดกันมาหลายปี" นางลาการ์ดระบุ
ผอ.IMF กล่าวว่า แม้มีความยากลำบากและมีความผันผวน แต่จีนจะสามารถจัดการกับการเปลี่ยนแปลงด้านการขยายตัวดังกล่าวได้โดยไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจหดตัวรุนแรง
นอกจากนี้ นางลาการ์ดยังเรียกร้องให้จีนยังคงผลักดันการปฏิรูปที่อิงกับตลาด เช่น การปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ
ก่อนหน้านี้ ผอ.IMF กล่าวที่มหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ว่า การขยายตัวที่ชะลอลงของจีนในระยะใกล้นั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการค้าและความต้องการที่ลดลงสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ในระยะยาว การปรับสมดุลของจีนจากการลงทุนไปสู่การบริการและภาคบริโภคภายในประเทศนั้น จะนำไปสู่การขยายตัวที่ยั่งยืนมากขึ้น และจะส่งผลดีต่อทั้งจีนและทั่วโลก
นางลาการ์ดยังระบุถึงความท้าทายสำคัญที่กลุ่มประเทศเกิดใหม่กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งรวมถึงการเติบโตช้าลงในจีน, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำลง และนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางที่สำคัญรายอื่นๆ
นางลาการ์ดคาดว่า ตลาดเกิดใหม่จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นสำหรับการสนับสนุนทางการเงินจาก IMF และสถาบันการเงินระหว่างประเทศอื่นๆ เนื่องจากต้องเผชิญกับความท้าทายข้างต้น
ในการสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับกระแสเงินทุนที่ปลอดภัยมากขึ้นนั้น เธอเรียกร้องให้ตลาดเกิดใหม่เพิ่มความยืดหยุ่นของระบบการเงินโดยการใช้นโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่รัดกุมและแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่ให้กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วยกระดับกรอบการทำงานด้านการกำกับดูแลเพื่อจับตากระแสการก่อหนี้ในระยะสั้น
นางลาการ์ดเรียกร้องให้มีการสร้างระบบความปลอดภัยทางการเงินระดับโลกที่แข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อที่จะสามารถเข้าถึงทรัพยากรทางการเงินได้ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตหรือยากลำบาก