แถลงการณ์จาก CDC ระบุว่า มาตรการดังกล่าวสะท้อนถึง "มุมมองของ CDC ต่อความจำเป็นสำหรับการยกระดับความพร้อมในการรวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทุ่มเทและดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพในการคาดการณ์แนวโน้มการแพร่ระบาดของไวรัสซิกาในสหรัฐ"
แถลงการณ์ระบุว่า ศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าวซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ด้วยเป้าหมายในการรับมือกับไวรัสซิกา เป็นศูนย์บัญชาการด้านการควบคุมและประสานงานมาตรการตอบโต้ฉุกเฉินสำหรับไวรัสซิกา ซึ่งประกอบไปด้วยบรรดานักวิทยาศาสตร์ของ CDC ที่มีความเชี่ยวชาญด้านไวรัสที่มีแมลงเป็นพาหะ อนามัยการเจริญพันธุ์ ความพิการแต่กำเนิด และความบกพร่องของพัฒนาการ
ศูนย์ปฏิบัติการที่ว่านี้ทำหน้าที่พัฒนาการทดสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อหาสาเหตุของไวรัสซิกา ดำเนินการวิจัยเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวไวรัสกับภาวะหัวเล็กเกินและอัมพาตเฉียบพลัน (Guillain Barre) อีกทั้งดำเนินการตรวจสอบการแพร่ไวรัสในสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดินแดนสหรัฐ พร้อมส่งบุคลากรสนับสนุนในเปอร์โตริโก บราซิล และโคลัมเบีย
ปัจจุบัน บุคลากรของ CDC กว่า 300 รายกำลังปฏิบัติงานอยู่ในศูนย์นี้ โดยมีการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และนานาชาติ เพื่อวิเคราะห์ ตรวจสอบ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของ CDC มีขึ้นหลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ จะทำการเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินจำนวน 1.8 พันล้านดอลลาร์เพื่อต่อสู้กับไวรัสซิกา
ทั้งนี้ ปธน.โอบามาจะยื่นข้อเรียกร้องดังกล่าวเข้าสู่สภาคองเกรสในวันนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณประจำปี 2017 ซึ่งจะสนับสนุนกลยุทธ์ในการกำจัดไวรัสดังกล่าว เช่น การใช้มาตรการควบคุมยุง, เร่งการวิจัยวัคซีน และพัฒนาการวินิจฉัยโรค ขณะที่ส่งเสริมการทดลอง และจัดหาวัคซีน
นอกจากนี้ งบประมาณดังกล่าวจะใช้ในการให้การศึกษาแก่ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ, หญิงมีครรภ์, ส่งเสริมการวิจัยด้านระบาดวิทยา และการค้นคว้าในห้องทดลอง
การดำเนินการด้านงบประมาณของปธน.โอบามามีขึ้น หลังมีการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิกา 50 รายในสหรัฐในช่วงเดือนธ.ค.- 5 ก.พ.