นายบัลเก้ กล่าวต่อสื่อมวลชนที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทว่า "เนสท์เล่ไม่เคยหยุดเติบโตในจีน แม้ว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างช้าๆ"
เมื่อวานนี้ เนสท์เล่ประกาศว่า ธุรกิจของบริษัทได้ขยายตัว 4.2% ในปี 2558 เมื่อเทียบกับเป้าหมายระยะยาวที่ 5-6% โดยการดำเนินงานในเอเชียนั้นได้รับผลกระทบอย่างหนักจากกรณีบะหมี่แม็กกี้ในอินเดีย อย่างไรก็ตาม รายงานประจำปีเปิดเผยว่า จีนได้ปรากฎให้เห็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตในช่วงท้ายปีที่ผ่านมา
"GDP ของจีนยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งปัจจุบันกำลังเคลื่อนตัวออกจากการอาศัยการลงทุนเป็นการบริโภคภาคเอกชน" นายบัลเก้กล่าว พร้อมเสริมว่า "เรามีความมั่นใจในศักยภาพของเราเพื่อเร่งการเติบโตอย่างยั่งยืน" ในตลาดจีน
ในขณะเดียวกัน นายบัลเก้ชี้ว่า ผู้บริโภคชาวจีนมีความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ โดยเมื่อปี 2558 ยอดขายของเนสท์เล่ถึงครึ่งหนึ่งนั้นมาจากอีคอมเมิร์ซในจีน
เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางเนสท์เล่จึงได้มีการยกระดับธุรกิจอีคอมเมิร์ซของตน ด้วยการลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ร่วมกับอาลีบาบา ซึ่งเป็นออนไลน์เทรดเดอร์รายใหญ่ที่สุดของจีน เพื่อส่งเสริมยอดขายและแบรนด์บนอินเทอร์เน็ต สำนักข่าวซินหัวรายงาน