รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า การลงประชามติที่จะออกจาก EU จะเป็นการเริ่มต้นของกระบวนการ ไม่ใช่จุดสิ้นสุด โดยจะต้องใช้เวลาหลายปีในการเจรจาข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับสหรัฐ และประเทศอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ทางด้านสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมที่เป็นพรรครัฐบาลของอังกฤษมีความเห็นขัดแย้งกันเกี่ยวกับอนาคตของอังกฤษใน EU โดยรัฐมนตรีที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว, นักการเมืองหัวอนุรักษ์นิยมแนวหน้า และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกว่า 120 คนเห็นพ้องให้อังกฤษออกจาก EU
ด้านนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นายจอห์นสัน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ผู้ประกาศสนับสนุนให้อังกฤษถอนตัวออกจาก EU โดยกล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าว เป็นเพียงความทะเยอทะยานอยากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของนายจอห์นสัน
ทั้งนี้ อังกฤษจะจัดการลงประชามติว่าจะยังคงเป็นสมาชิก EU หรือไม่ในวันที่ 23 มิ.ย.