นักเศรษฐศาสตร์ชาวเยอรมันผู้นี้ กล่าวว่า "ข้อได้เปรียบหลักของ EU ได้แก่นโยบายเปิดเสรีทางการค้าและบริการ ซึ่งจะได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงหากอังกฤษเลือกที่จะออกจาก EU"
นายคัปเฟอร์เรอร์ กล่าวว่า "Brexit จะก่อให้เกิดความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นอีก ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจของเรากำลังเผชิญกับแนวโน้มความไม่แน่นอนอันเป็นผลจากสาเหตุหลายประการ"
OECD รายงานว่า EU เป็นตลาดสำคัญของสหราชอาณาจักร โดยประเทศสมาชิก EU คิดเป็นสัดส่วน 53% ในการนำเข้าของอังกฤษ และคิดเป็น 48% ในการส่งออกของอังกฤษ สำหรับประเทศคู่ค้ารายหลักของอังกฤษเมื่อปี 2557 ได้แก่เยอรมนี ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 12.3% ของปริมาณการค้าทั้งหมดในอังกฤษ ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา (9.5%) เนเธอร์แลนด์ (7.5%) จีน (7.3%) และฝรั่งเศส (5.9%)
หากเกิดกรณี Brexit จริงแล้ว เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์ก็จะได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน โดยนายคัปเฟอร์เรอร์ชี้ว่า กลุ่มบริษัทข้ามชาติที่ปัจจุบันตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร อาจต้องย้ายสำนักงานใหญ่ของตนไปยังประเทศอื่นๆในยุโรป
อย่างไรก็ตาม นายคัปเฟอร์เรอร์กล่าวว่า "ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ผลกระทบในภาคการเงินและองค์กรการเงินสาขาต่างๆ"
ทั้งนี้ ในวันที่ 23 มิ.ย. อังกฤษจะจัดการลงประชามติว่าจะยังคงเป็นสมาชิก EU หรือไม่