นายหลูให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า สัดส่วนการขาดดุลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนนั้นต่ำกว่าระดับแจ้งเตือนที่ 3% ด้านสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ก็มิได้อยู่ในระดับสูง
สำหรับความเสี่ยงด้านหนี้สินนั้น ยังสามารถควบคุมได้ ส่วนหนี้สินโดยตรงของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นรวมกันคิดเป็นเกือบ 40% ของ GDP ในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ สถาบันระหว่างประเทศมักจะใช้ 2 ดัชนีดังกล่าวในการประเมินความเสี่ยงทางการเงินของประเทศ โดยการขาดดุลไม่ควรสูงเกิน 3% ของ GDP และสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ของรัฐบาลทั่วไปส่วนไม่ควรสูงเกิน 60%
นายหลูเพิ่มเติมว่า จากการที่เศรษฐกิจของจีนเติบโตด้วยอัตราต่ำสุดในรอบ 25 ปี ประเด็นสำคัญคือการจัดระเบียบและลำดับความสำคัญของการปฏิรูปโครงสร้าง เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความพยายามในการจัดการกับความท้าทายในระยะสั้น และส่งเสริมการพัฒนาในระยะยาว
นอกจากนี้ จีนยังต้องยอมสละผลประโยชน์ระยะสั้นจากการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อบรรลุผลกำไรในระยะยาว อาทิ การลดกำลังการผลิตส่วนเกินในอุตสาหกรรม และการลดปริมาณบ้านค้างสต็อก ในขณะที่นโยบายการปฏิรูปต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อดีต่อเศรษฐศาสตร์การผลิตมากกว่าควรนำมาพิจารณาเป็นอันดับแรก