เกิดเหตุระเบิดพลีชีพในสวนสาธารณะของเมืองลาฮอร์ ทางตะวันออกของปากีสถาน เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 72 คน ซึ่งรวมถึงเด็กและผู้หญิง นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 315 คน
--นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ที่สามารถยึดคืนเมืองพัลไมรากลับคืนมาได้เมื่อวานนี้ หลังจากที่ได้ทำการสู้รบอย่างหนักกับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) มาเป็นเวลานาน
--คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารจีน (CBRC) เปิดเผยว่า สถาบันการเงินของจีนมียอดสินทรัพย์และหนี้สิน ณ สิ้นเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบเป็นรายปี
--สำนักข่าวอัลจาซีราได้ปลดพนักงานราว 500 คน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในประเทศกาตาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะปรับไปสู่ดิจิตอลคอนเทนต์
--นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตาดูนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐนิวยอร์ก ในวันพรุ่งนี้ เพื่อจับสัญญาณว่า นางเยลเลนจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดได้ออกมาแสดงความเห็นว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
--สภาสหภาพเมียนมาร์ได้อนุมัติให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเลือกตั้งชุดใหม่จำนวน 5 ราย เพื่อบริหารจัดการการเลือกตั้งทั่วไปในอีก 5 ปีนับจากนี้
--แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า ธนาคารโตเกียว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ได้ตัดสินใจกำหนดวงเงินสินเชื่อใหม่ให้แก่บริษัท ชาร์ป คอร์ป ในวันนี้ ในขณะที่บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกของญี่ปุ่นรายนี้พยายามหาทางลงนามในข้อตกลงขายกิจการให้กับบริษัท ฮอนไฮ พรีซิชั่น อินดัสตรี โค ของไต้หวัน
--รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่า ปริมาณการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น 41.6% เทียบรายปี ในขณะที่รายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้น 40.8% ในไตรมาสแรกของปีนี้
--สำนักงานตำรวจของเมืองโตเกียวได้ซ้อมปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายในวันนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G-7 เดือนพ.ค.นี้
--แหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลและพรรครัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 5 ล้านล้านเยน (4.4 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เดิมทีอ่อนแรงอยู่แล้วนั้น ย่ำแย่ลงไปอีก