สัญญาดังกล่าวมีมูลค่าสัญญาราว 32,399 ล้านบาท หรือ 110,000 ล้านเยน โดยการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 4 ปี
ทั้งนี้ เอ็มเฮชไอจะรับผิดชอบงานออกแบบและจัดหาระบบที่นอกเหนือจากตู้รถไฟฟ้า ส่วนฮิตาชิจะรับผิดชอบในการออกแบบและผลิตตู้รถไฟฟ้า ส่วนซูมิโตโมจะรับผิดชอบงานธุรการและงานติดตั้งระบบ
เอ็มเฮชไอมีประสบการณ์มากมายในการส่งมอบงานโครงการรถไฟขนาดใหญ่ รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ไต้หวัน และโครงการที่เมืองดูไบ เช่นเดียวกันกับระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติและระบบขนส่งแบบใหม่สำหรับเขตเมืองและสนามบินทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ นอกจากนี้เอ็มเฮชไอยังเป็นบริษัทแรกในญี่ปุ่นที่มีระบบทดสอบระบบรถไฟฟ้าแบบครอบวงจร เอ็มเฮชไอจะใช้ประสบการณ์และเทคโนโลยีที่อยู่มากมายในฐานะผู้ประสานระบบมาใช้ในโครงการนี้
ขณะที่ฮิตาชิมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบรางที่หลากหลาย ตั้งแต่รถไฟโดยสารไปจนถึงรถไฟความเร็วสูงในฐานะที่เป็นผู้ที่สามารถตอบสนองความต้องการในระดับโลก ฮิตาชิจะใช้ประสบการณ์ในการทำงานในโครงการต่างๆเพื่อให้สามารถส่งมอบรถไฟฟ้าที่มีความน่าเชื่อถือให้กับโครงการนี้ ส่วนซูมิโตโมมีประสบการณ์ทำงานด้านโครงการระบบรางทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สหรัฐอเมริกา และไต้หวัน ด้วยประสบการณ์ที่มีมากมายในการก่อสร้างโครงการรถไฟและการส่งมอบรถไฟ ซูมิโตโมจะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น
มิตซูบิชิ ฮิตาชิ และซูมิโตโม จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทย โดยใช้จุดแข็งของแต่ละบริษัทในการส่งมอบระบบขนส่งมวลชนที่มีความปลอดภัย ความสะดวกสบายและมีมลพิษต่ำแก่ประเทศไทย