นายจอร์จ ออสบอน รมว.คลังอังกฤษ เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 4 ของอังกฤษพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ แตะระดับ 7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 4.3% ในไตรมาส 3
นายออสบอนระบุว่า การพุ่งขึ้นของยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดดังกล่าว เน้นย้ำถึงความสำคัญที่ชาวอังกฤษจะต้องลงประชามติในวันที่ 23 มิ.ย.สนับสนุนให้อังกฤษยังคงอยู่ในสหภาพยุโรป (EU) ต่อไป
"ตัวเลขในวันนี้บ่งชี้ถึงอันตรายของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และแสดงให้เห็นว่าขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะนำความมั่นคงทางเศรษฐกิจมาเสี่ยงโดยการออกจาก EU" เขากล่าว