รายงานจากธนาคาร OCBC ของสิงคโปร์ ระบุว่า การดีดตัวขึ้นของดัชนี PMI จีนเดือนมี.ค.ทั้งที่รัฐบาลจีนและไฉซินได้เปิดเผยเมื่อเช้านี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยทางฤดูกาล และยังได้รับแรงหนุนจากอีกสองปัจจัย ได้แก่อุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้น และความเชื่อมั่นในตลาดที่มีเสถียรภาพ
สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนมี.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.2 จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 49
ในขณะเดียวกัน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินประจำเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 49.7 จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 48
นักวิเคราะห์ระบุในรายงานดังกล่าวว่า การดีดตัวขึ้นของดัชนี PMI ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยทางฤดูกาล
รายงานระบุว่า "แม้ว่าในทางทฤษฎีแล้วดัชนี PMI มีการปรับตัวเลขตามปัจจัยฤดูกาล แต่เมื่อศึกษารูปแบบที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นพบว่า ตัวเลขเดือนมี.ค.มักสูงกว่าเดือนก.พ.เสมอ นับตั้งแต่ที่ได้เริ่มมีการจัดทำดัชนี PMI เมื่อปี 2548 ดังที่ปรากฎในชาร์ทด้านล่าง ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับช่วงตรุษจีน"
นอกเหนือจากปัจจัยทางฤดูกาลแล้ว OCBC ยังพบว่า การดีดตัวขึ้นของดัชนี PMI นั้นยังเป็นผลจากอีกสองปัจจัย ได้แก่ อุปสงค์ที่ดีขึ้น และความเชื่อมั่นตลาดที่มีเสถียรภาพ
OCBC เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในตลาดการเงิน เช่นเดียวกับเสถียรภาพของเงินหยวน ได้ช่วยบรรเทาความวิตกของเหล่าผู้ผลิต และทำให้มีความเชื่อมั่นมากขึ้น
ทั้งนี้ ภาคการผลิตก็เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวด้วยเช่นกัน โดยOCBC ระบุว่า "ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนดีดตัวขึ้น 4.8% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2559 หลังจากที่หดตัวลงต่อเนื่อง 7 เดือน และแม้ว่าอุตสาหกรรมต้นน้ำยังคงมีปัจจัยกดดันปรากฎให้เห็น แต่อุตสาหกรรมปลายน้ำเริ่มมีกำไรฟื้นตัว โดยกลุ่มผู้ผลิตมีกำไรดีดตัวขึ้น 12.9% ในช่วง 2 เดือนแรก ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนดัชนี PMI" สำนักข่าวซินหัวรายงาน