นายนิโคลัส ลาร์ดี้ นักวิชาการอาวุโสประจำสถาบันเศรษฐกิจระหว่างประเทศปีเตอร์สัน และผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าในเรื่องของเศรษฐกิจจีน คาดการณ์ว่า สกุลเงินหยวนจะไม่อ่อนค่าลงอย่างหนักในปีนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงเช่นเดียวกับการส่งออก
นายลาร์ดี้งเศรษฐกิจจีน กล่าวในงานสัมมนาว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจโลกว่า "ผมไม่คิดว่าเราจะได้เห็นทั้งการลดค่าเงินครั้งใหญ่และการอ่อนค่าลงอย่างหนักสำหรับเงินหยวนในปีนี้"
นายลาร์ดี้ กล่าวว่า "ผมไม่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งที่ว่าเงินหยวนนั้นมีค่าสูงเกินไป และไม่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งที่ว่าจีนได้เสียศักยภาพในการแข่งขัน"
จีนมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่ราว 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำสถิติมากที่สุดในโลกในรูป Absolute Term ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าจีนไม่มีความจำเป็นต้องลดค่าเงินหยวนเพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ นายลาร์ดี้ยังได้โต้แย้งคำกล่าวอ้างที่ว่า ปัจจัยทางตลาดนั้นจะส่งผลให้เงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างหนัก เนื่องจากทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของจีนนั้น "สูงเกินจริง" และ "ร่วงลงอย่างรวดเร็ว"
ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของจีนได้ปรับตัวลดลงราว 5.13 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่ร่วงลงมากที่สุด แต่ราวหนึ่งในสามในจำนวนที่ร่วงลงนั้นเป็นผลจากการปรับค่าของเงิน (Valuation Effect) มากกว่ากระแสทุนสำรองไหลออก
นักวิชาการรายนี้ได้อธิบายไว้ว่า นับตั้งแต่เงินดอลลาร์สหรัฐได้แข็งค่าขึ้นเทียบยูโร เยน และสกุลเงินอื่นๆตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2554 มูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงินที่ไม่ใช่สกุลเงินดอลลาร์ในทุนสำรองของจีนได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อคิดเป็นเงินดอลลาร์ โดยตัวเลขที่ปรับตัวลดลงส่วนใหญ่เป็นผลจากการที่บริษัทจีนได้ทยอยชำระหนี้สินในรูปสกุลเงินต่างประเทศ
"ผมคิดว่า มุมมองที่ว่าการปรับตัวลดลงของทุนสำรองเป็นผลจากการที่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่เกิดความตื่นตระหนก จนส่งผลให้พยายามโยกย้ายเงินของตนไปไว้ต่างประเทศนั้นค่อนข้างผิดไปจากความเป็นจริง" นายลาร์ดี้ กล่าว "ผมมองว่าสิ่งนี้สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวของนักลงทุนและองค์กรต่างๆ ในการตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของกระแสคาดการณ์ในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนและความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย" สำนักข่าวซินหัวรายงาน