กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในจีนมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้
" FDI รายปีอาจไม่เพิ่มขึ้นฮวบฮาบ แต่จะยังคงรักษาทิศทางการขยายตัวดังที่ปรากฎในปีที่แล้วและในไตรมาสแรกของปีนี้" นายเฉิน ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าว
เขากล่าวว่า มูลค่า FDI ในเขตปกครองฝั่งตะวันตกเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสแรกของปีนี้ แซงมูลค่า FDI รวมของประเทศ โดย FDI ในพื้นที่ตะวันตกพุ่งขึ้น 42.5% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 2.13 หมื่นล้านหยวน (3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
นายเฉินระบุว่า การพุ่งขึ้นของ FDI ในเขตปกครองตะวันตก เป็นผลจากศักยภาพที่โดดเด่นของภาคธุรกิจบริการ ประกอบกับฐานเปรียบเทียบค่อนข้างต่ำ
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า FDI ในจีนแผ่นดินใหญ่ เพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 2.24 แสนล้านหยวน หรือ 3.47 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 1 ซึ่งเป็นการชะลอตัวลงจากการขยายตัว 6.4% ในปี 2558 อย่างไรก็ดี FDI เดือนมี.ค. ขยายตัว 7.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 8.2 หมื่นล้านหยวน
โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า การควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) เกิดถี่ขึ้น และมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของ FDI เพิ่มขึ้นด้วย
เม็ดเงินลงทุนจากธุรกรรม M&A พุ่งสูงขึ้น 32.6% เมื่อเทียบรายปีในไตรมาสแรกของปีนี้ สู่ระดับ 7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 22.7% ของ FDI ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 17.9% เมื่อหนึ่งปีก่อน
นายเฉินเปิดเผยว่า การทำธุรกรรม M&A โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงเกิดต่อเนื่องในจีน สวนทางกับรายงานของบริษัทด้านบัญชี KPMG ซึ่งระบุว่า ข้อตกลงควบรวมกิจการโดยนักลงทุนต่างชาติลดลงในปีที่แล้ว
เขากล่าวว่า จำนวนข้อตกลง M&A ซึ่งลงทุนโดยต่างชาติ ปรับตัวสูงขึ้น 14.4% อยู่ที่ 1,466 ฉบับในปี 2558 ส่วนมูลค่าการลงทุนที่เกิดขึ้นจริงทะยาน 137% สู่ระดับ 1.78 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ นายเฉินยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจีนเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติผ่านทาง M&A อย่างต่อเนื่อง สำนักข่าวซินหัวรายงาน