สมาคมยานยนต์ขนาดเล็กและรถจักรยานยนต์แห่งญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดขายมินิคาร์ของมิตซูบิชิและนิสสัน ได้ปรับตัวลดลงถึงครึ่งหนึ่งในเดือนเม.ย. หลังเกิดเหตุอื้อฉาวที่ทางมิตซูบิชิออกมายอมรับว่าได้โกงการทดสอบค่าประหยัดพลังงานเป็นเวลา 25 ปี
มิตซูบิชิมียอดขายมินิคาร์ร่วงลง 44.9% เทียบรายปี แตะ 1,477 คัน ส่วนค่ายยานยนต์พันธมิตรอย่างนิสสันมียอดขายลดลงถึง 51.2% แตะ 5,574 คัน
มิตซูบิชิได้ยอมรับว่าได้ใช้วิธีการทดสอบที่ไม่เป็นไปตามกฎระเบียบต่อรถยนต์ 4 รุ่น เพื่อทำให้มีค่าประหยัดพลังงานสูงกว่าความเป็นจริง
มิตซูบิชิระบุว่า รถยนต์ขนาดเล็กของบริษัทจำนวนรวม 625,000 คัน ซึ่งรวมถึงรถยนต์จำนวน 468,000 คันที่จัดส่งไปยังบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ได้เข้าข่ายการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบ ซึ่งบริษัทได้ทำการยุติการผลิตและการจำหน่ายรถยนต์ทั้ง 4 รุ่นแล้ว
มิตซูบิชิยอมรับว่าทางบริษัททำการตกแต่งตัวเลขผลการทดสอบการประหยัดพลังงาน เช่น แรงต้านขณะล้อหมุน
ทั้งนี้ นิสสันได้ตรวจพบความไม่สอดคล้องกันของผลการทดสอบดังกล่าว และได้แจ้งให้มิตซูบิชิทำการตรวจสอบความถูกต้องของแรงต้านของล้อขณะหมุน และข้อมูลด้านแอโรไดนามิคส์ ซึ่งทางบริษัทได้ทำการตรวจสอบภายในจึงพบการตกแต่งข้อมูลดังกล่าว
มิตซูบิชิเปิดเผยว่า หากมีการใช้ข้อมูลเกี่ยวกับแรงต้านอย่างถูกต้อง จะทำให้รถยนต์ที่ถูกตรวจสอบมีค่าประหยัดพลังงานลดลงราว 5-10%