คณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) เมียนมาร์เปิดเผยว่า เมียนมาร์ตั้งเป้ากวาดเงินลงทุนจากต่างชาติ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบการเงิน 2559/2560
โดยเมียนมาร์กวาดเงินลงทุนจากต่างชาติไปได้ทั้งสิ้น 9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปีงบประมาณ 2558/2559 ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2557/2558
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้บริษัทต่างชาติมีการลงทุนเพิ่มขึ้นนั้น มาจากการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ ภาคอุตสาหกรรมการผลิต และภาคโทรคมนาคม
เมียนมาร์กวาดเม็ดเงินลงทุนไปได้ทั้งสิ้น 1.413 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบการเงิน 2555/2556 และ 4.107 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบการเงิน 2556/2557 และมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบการเงิน 2557/2558
รายงานยังระบุอีกว่า นับตั้งแต่ปี 2531 จนถึงสิ้นสุดเดือนมี.ค. ปี 2559 เมียนมาร์กวาดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติไปได้ทั้งสิ้น 6.3718 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ จีนนับเป็นชาติที่เข้ามาลงทุนสูงสุด เป็นเงินทั้งสิ้น 1.8072 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 28.36% ตามมาด้วยสิงคโปร์ที่ 1.3066 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และประเทศไทย ซึ่งลงทุนไปทั้งสิ้น 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซมีผู้เข้ามาลงทุนสูงสุด คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 2.241 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 35.17% ของจำนวนทั้งหมด ตามมาด้วยภาคพลังงานที่ 1.9684 หมื่นล้านดอลลาร์ ภาคการผลิตที่ 6.585 พันล้านดอลลาร์ ปิดท้ายด้วยภาคการขนส่งและการคมนาคมที่ 5.085 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
การลงทุนของบริษัทต่างชาติ ในช่วงรัฐบาลของนายเต็ง เส่ง เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา จากปี 2554-2559 ส่งผลให้มีโอกาสการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 350,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ คณะกรรมการการลงทุนของเมียนมาร์ ได้สนับสนุนให้บริษัทต่างชาติลงทุนโดยตรง ในด้านการค้า, การเกษตร และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อช่วยเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และเพิ่มโอกาสการจ้างงานให้กับประชาชน