นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ได้ออกมาขานรับรัฐสภากรีซที่อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่ โดยกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวถือเป็นแผนแม่บทในแก้ไขปัญหาหนี้สินของประเทศ หลังจากที่ได้มีการหารือในประเด็นดังกล่าวกับยูโรกรุ๊ป
การแสดงความเห็นของนายซิปราสมีขึ้นหลังจากนางแอนนิกา ไบรด์ทาร์ด โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวว่า EC จะให้ความช่วยเหลือในการเจรจาลดหนี้ให้แก่กรีซ และสรุปการทบทวนการดำเนินมาตรการตามข้อตกลงในการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ก่อนที่กรีซจะได้รับเงินกู้งวดต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกรีซได้ชี้ให้เห็นถึงอนาคตอันสดใสในวันข้างหน้า หลังจากที่กรีซต้องเผชิญกับความตกต่ำและนโยบายรัดเข็มขัดอันเข้มงวด แม้ว่ายังไม่สามารถสรุปข้อตกลงปล่อยเงินกู้งวดใหม่กับยูโรกรุ๊ปได้ในการประชุมครั้งล่าสุด
นายกรัฐมนตรีกรีซเปิดเผยผ่านแถลงการณ์ว่า "กรีซเดินหน้าสู่บทใหม่ ก้าวออกจากความมืดมนที่ครอบคลุมมานานถึงหกปี ท้ายที่สุดก็เริ่มเห็นอนาคตอันรุ่งโรจน์" พร้อมกับกล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกที่กรีซมีแผนแม่บทที่ระบุถึงลำดับขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่ชัดเจนและค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะปรากฎให้เห็นชัดยิ่งขึ้นในการประชุมยูโรกรุ๊ปครั้งต่อไปในวันที่ 24 พ.ค.นี้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกรีซคาดหวังว่า แนวทางของเขาจะส่งผลให้เศรษฐกิจกรีซฟื้นตัว พร้อมเสริมสร้างความยุติธรรมทางสังคมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในไม่กี่ปีข้างหน้านี้
ด้านนายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป กล่าวว่า ยูโรกรุ๊ปพอใจกับมาตรการรัดเข็มขัดของทางการกรีซ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเปิดทางสู่การรับเงินช่วยเหลืองวดใหม่และชำระหนี้แก่กลุ่มเจ้าหนี้ตามกำหนดการในเดือนมิ.ย.นี้
ทั้งนี้ ยูโรกรุ๊ป คาดหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกับกรีซได้ในวันที่ 24 พ.ค. ซึ่งเป็นกำหนดประชุมครั้งต่อไป
กรีซจำเป็นต้องชำระหนี้เป็นจำนวน 300 ล้านยูโรคืนให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และอีก 2.3 พันล้านยูโรให้แก่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิ.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงาน