ผลสำรวจของ YouGov/Center ซึ่งจัดทำให้กับศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจของอังกฤษ (CEBR) ชี้ ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของอังกฤษทรุดหนัก หลังอังกฤษลงประชามติเพื่อถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งเป็นการซ้ำเติมแนวโน้มเศรษฐกิจอังกฤษที่มีแต่ความมืดหม่น
จากการสำรวจบริษัทในอังกฤษ 1,000 แห่ง พบว่า บริษัทเกือบครึ่งหนึ่งมองแนวโน้มเศรษฐกิจอังกฤษซบเซาในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากจำนวนบริษัทที่แสดงความเห็นเดียวกันก่อนการลงประชามติวันที่ 23 มิ.ย.
นายสก็อต คอร์ฟ ผู้อำนวยการ CEBR เปิดเผยว่า ความคาดหวังของภาคธุรกิจที่มีต่อยอดขายในประเทศ การส่งออก และการลงทุนในอีก 12 เดือนข้างหน้ายังร่วงดิ่งเหว
มุมมองเชิงลบแผ่ปกคลุมภาคธุรกิจอังกฤษหลังจากเกิดความปั่นป่วนจากการลงประชามติถอนตัวจาก EU ไม่ว่าจะเป็นการร่วงลงของเงินปอนด์ การที่ EU กดดันให้อังกฤษเริ่มต้นเจรจาถอนตัวจาก EU อย่างเร่งด่วน ไปจนถึงความไม่แน่นอนว่าใครจะขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ของอังกฤษในเดือนต.ค. นี้ หลังจากนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศลงจากตำแหน่ง
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ในขณะที่นายจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอังกฤษหวังพึ่งพาการลงทุนของจีนเพื่อมาสนับสนุนเศรษฐกิจของอังกฤษหลังจากนี้
นายออสบอร์นได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการเปิดเผยต่อสื่อเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การลงประชามติ เขากล่าวว่า ต้องการทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีเพิ่มขึ้น และเพิ่มกระแสเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่องที่มาจากจีน ซึ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในเป้าหมายแรกสุดในการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจอังกฤษ
ขณะเดียวกันคาดว่า นายออสบอร์นจะเดินทางเยือนจีนในปีนี้ เพื่อดำเนินการให้เป้าหมายเหล่านี้บรรลุผล
สำหรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ นายออสบอร์นตั้งเป้าจะลดภาษีบริษัทในอังกฤษอีกครั้งจากระดับ 20% ในปัจจุบัน สู่ระดับต่ำกว่า 15% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าประเทศชั้นนำส่วนใหญ่
นายออสบอร์นระบุว่า อังกฤษต้องแสดงให้นักลงทุนเห็นโดยเร็วว่า สภาวะทางธุรกิจของอังกฤษนั้นเปิดกว้างเท่ากับแต่ก่อน
ก่อนหน้านี้ รมว.คลังอังกฤษเคยเตือนว่า เศรษฐกิจของประเทศจะเผชิญภาวะขาลงทางเทคนิคเป็นเวลา 2 ฤดูกาล ภายหลังจากการลงประชามติ Brexit
นายออสบอร์นยังวางเป้าหมายคงความสามารถทางการแข่งขันของอังกฤษ ด้วยการสนับสนุนให้ธนาคารปล่อยกู้ เพิ่มผลผลิตเพื่อการพัฒนานอร์ท ออฟ อิงแลนด์ ตลอดจนสนับสนุนสินเชื่อทางการเงินที่ยั่งยืน สำนักข่าวซินหัวรายงาน