ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเงินกล่าวว่า ปัญหาในภาคธนาคารของอิตาลีกำลังกลายเป็นวิกฤตระลอกใหม่กลุ่มประเทศยูโรโซน เนื่องจากธนาคารหลายแห่งกำลังประสบกับปัญหาหนี้เสียที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับการจ่ายชำระเงินต้นคืนไม่ครบเต็มจำนวน
ธนาคารกลางอิตาลีเปิดเผยว่า ภาคธนาคารของอิตาลีกำลังได้รับผลกระทบจากสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) หรือหนี้เสีย ซึ่งมีมูลค่าสูงถึงราว 3.60 แสนล้านยูโร ขณะที่อิตาลีมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป ดังนั้น หากเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ขึ้น ก็จะส่งผลกระทบมากกว่าวิกฤตการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์จากกรีซ นายเจโรน ดิจเซลโบลม ประธานรมว.คลังยูโรโซน กล่าวยืนยันในวันนี้ว่า จะไม่มีการแก้ไขกฎข้อบังคับของสหภาพยุโรป (EU) เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการกอบกู้สถานะทางการเงินของธนาคารอิตาลี
ทั้งนี้ EU มีกฎระเบียบในการห้ามนำเงินภาษีอากรของประชาชนไปช่วยเหลือธนาคารที่ประสบปัญหาทางการเงิน
นายดิจเซลโบลมระบุว่า ธนาคารอิตาลีมีปัญหาเกี่ยวกับ NPL แต่เขายืนยันว่าจะไม่มีการแก้ไขกฎระเบียบเหล่านี้เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อธนาคารอิตาลี
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ปัญหาของภาคธนาคารอิตาลีมีสาเหตุมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเป็นระยะเวลาที่ยาวนานถึง 2 ทศวรรษ ส่งผลให้ขนาดเศรษฐกิจของอิตาลีหดตัวลง 8% จากช่วงก่อนเกิดวิกฤตการเงินโลก เมื่อวัดจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
ด้วยขนาดของเศรษฐกิจอิตาลีและยอดหนี้สินของรัฐบาลทำให้อิตาลีกลายเป็นภูเขาไฟคุกรุ่นที่กำลังรอวันปะทุ ในขณะความเสี่ยงได้เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆอันเนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมือง
ปัญหาดังกล่าวทำให้เป็นเรื่องยากที่จะเพิ่มรายได้จากภาษีเพื่อนำเงินมาจ่ายชำระหนี้ และยังทำให้ภาคธุรกิจประสบความยากลำบากในการจ่ายชำระหนี้ของตนอีกด้วย ส่งผลให้ภาคธนาคารได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากปัญหาหนี้เสีย
ทั้งนี้ หนึ่งในธนาคารที่กำลังประสบกับปัญหาของอิตาลีก็คือ ธนาคาร Banca Monte dei Paschi di Siena ซึ่งถูกธนาคารกลางยุโรป (ECB) สั่งให้ลดยอด NPL ลง