กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุในวันนี้ว่า การลงประชามติของอังกฤษในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ได้ก่อให้เกิดความไม่แน่นอน และเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
อย่างไรก็ดี IMF ระบุว่า จนถึงขณะนี้ ปัจจัย Brexit ดูเหมือนจะมีผลกระทบไม่มากนักต่อการขยายตัวของสหรัฐ
IMF ประกาศคงอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ระดับ 2.2% ในปีนี้ และ 2.5% ในปีหน้า
ทั้งนี้ IMF เปิดเผยในรายงานประจำปีว่าด้วยเศรษฐกิจและนโยบายของสหรัฐว่า ปัจจัย Brexit ได้ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่ก็ยังน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้ โดยเพิ่มขึ้นเพียง 1% ขณะที่ตลาดหุ้นสามารถลบช่วงติดลบที่เคยทำไว้นับตั้งแต่การลงประชามติ ขณะที่นักลงทุนแห่ซื้อพันธบัตรจนส่งผลให้อัตราผลตอบแทนปรับตัวลง และฉุดให้ต้นทุนในการระดมทุนของภาคธุรกิจต่ำลงอย่างมาก
IMF ระบุว่า ขณะที่ความผันผวนในตลาดการเงิน และการแข็งค่าของดอลลาร์สร้างความเสี่ยงในช่วงขาลงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ IMF ก็ยังคงมองเห็นแรงหนุนจากการที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น รวมทั้งผลกระทบเชิงบวกต่อการบริโภค และการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน
อย่างไรก็ดี IMF เตือนว่าความเสี่ยงในช่วงขาลงที่มีอันตรายและมีความซับซ้อนมากขึ้นคือ อัตราการขยายตัวตามศักยภาพซึ่งอาจจะต่ำกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมกับการมีช่องว่างด้านผลผลิต ซึ่งจะทำให้การขยายตัวในปีต่อๆไปอาจต่ำกว่า 2%
นอกจากนี้ รายงานยังเตือนว่า สหรัฐกำลังเผชิญกับปัจจัยที่จะถ่วงการปรับตัวขึ้นในอนาคต ซึ่งได้แก่ การที่แรงงานจำนวนมากขึ้นเข้าสู่วัยเกษียณอายุ, โครงสร้างพื้นฐานที่มีอายุมากขึ้น และประสิทธิภาพการผลิตที่ระดับต่ำ ขณะที่ตลาดแรงงานและภาคธุรกิจไม่สามารถปรับตัวรับการกระจายของทุนและแรงงาน