แกลลัพโพลชี้ชาวอเมริกันเชื่อสหรัฐจะกลายเป็นสังคมที่ไม่ใช้เงินสด

การสำรวจครั้งใหม่ของแกลลัพ โพล พบว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ หรือ 60% คาดว่า อเมริกาจะกลายเป็นสังคมที่ไม่ใช้เงินสดในอนาคตข้างหน้า โดยคาดว่าธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดจะถูกทดแทนด้วยการทำธุรกรรมแบบอิเลคทรอนิกส์

การสำรวจนี้มาจากการที่ชาวอเมริกันมีทางเลือกในการทำธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบอิเลคทรอนิกส์มากขึ้น และใช้เงินสดในการทำธุรกรรมทางการเงินน้อยลง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการใช้เงินสดของชาวอเมริกันมีแนวโน้มที่จะลดน้อยลง แต่คนส่วนใหญ่หรือ 54% ยังเลือกที่จะใช้เงินสดในการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังชอบที่จะพกเงินสดติดตัวไว้ตลอดเวลา เทียบกับ 42% ที่กล่าวว่า พวกเขารู้สึกสะดวกสบายที่ไม่ต้องพกเงินสดไว้กับตัว

ขณะที่หนุ่มสาวอเมริกันที่มีอายุระหว่าง 18-29 ปี จำนวน 56% มีแนวโน้มว่าจะรู้สึกสะดวกหากไม่ต้องพกเงินสดติดตัว

ผลสำรวจ แสดงการเปรียบเทียบให้เห็นว่า ชาวอเมริกันที่มีอายุระหว่าง 30-49 ปี จำนวน 54% และ ชาวอเมริกันที่มีอายุระหว่าง 50-64 ปี จำนวน 20% และชาวอเมริกันที่มีอายุมากกว่า 65 ปี จำนวน 62% ชอบที่จะมีเงินสดติดตัวอยู่ตลอดเวลามากกว่า

ทั้งนี้เงินสดเริ่มมีความสำคัญลดลงในพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของคนอเมริกัน โดยพวกเขาถูกดึงดูดให้ใช้ทางเลือกอื่นๆในการชำระเงิน และหันไปซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ แทนการซื้อขายจากร้านขายของที่มีหน้าร้านแบบเดิมๆ

ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นอีกว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมีนัยสำคัญกับอุตสาหกรรมการธนาคาร การใช้บัตรเครดิต และการซื้อขายแบบอิเลคทรอนิกส์ ตลอดจนร้านค้าและธุรกิจท้องถิ่นในสหรัฐอเมริกา ที่จะได้รับแรงกดดันมากขึ้นในการปรับตัวและยอมรับการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทางระบบอิเลคทรอนิกส์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน