กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศมีแนวโน้มอ่อนแรงลงในไตรมาส 2 เนื่องจากการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนชะลอตัวลง นอกจากนี้ เศรษฐกิจเยอรมนียังมีแนวโน้มที่จะถูกกระทบจากปัจจัยเสี่ยงภายนอก ซึ่งรวมถึงการที่อังกฤษลงมติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
รายงานประจำเดือนของกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีระบุว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับ Brexit ยังคงเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของเยอรมัน และยังได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของภาคส่วนต่างๆ โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวลดลงแตะ 108.3 ในเดือนก.ค. จากระดับ 108.7 เมื่อเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ ยังมีผลสำรวจระบุว่า บริษัทของเยอรมนีจะส่งออกไปยังอังกฤษลดลง รวมทั้งมีแผนปรับลดการลงทุนและจำนวนพนักงาน หลังจากอังกฤษตัดสินใจแยกตัวจากสหภาพยุโรป โดยบริษัท 1 ใน 4 จากจำนวนกว่า 5,600 บริษัทที่ได้รับการสำรวจระบุว่าจะปรับลดปริมาณการส่งออกไปยังอังกฤษลง เนื่องจากมีความกังวลในเรื่องของการเมืองและกฎหมายอังกฤษที่ยังไม่แน่นอน ขณะที่บริษัทเยอรมนีมากกว่า 1 ใน 3 มีแผนที่จะปรับลดการลงทุนในอังกฤษลง และอีก 26% เผยว่าทางบริษัทมีแผนลดจำนวนพนักงาน
ทั้งนี้ ทางการเยอรมนีมีกำหนดจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP ไตรมาส 2 จะขยายตัวเพียง 0.2% หลังจากที่มีการขยายตัว 0.7% ในไตรมาสแรกปีนี้