ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐเปิดเผยว่า จีนยังคงเป็นประเทศที่มีบทบาทมากที่สุดในเศรษฐกิจโลก แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงเร็วกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก็ตาม
นายสตีเฟน โรช นักวิชาการอาวุโสจากมหาวิทยาลัยเยล และอดีตประธานมอร์แกน สแตนลีย์ เอเชีย เปิดเผยว่า หากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ขยายตัวแตะระดับ 6.7% ตามเป้าหมายของรัฐบาล ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะมีสัดส่วนถึง 1.2% ต่อตัวเลข GDP โลก
นอกจากนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 3.1% โดยจีนจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วน 39% ของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมากกว่ามูลค่ารวมของเศรษฐกิจจากประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหมด
สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนั้น คาดว่า จะขยายตัวขึ้นเพียง 2.2% ในปีนี้ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 0.3% ของตัวเลข GDP ทั่วโลก หรือมีขนาดเพียง 1 ใน 4 ของมูลค่าเศรษฐกิจจีน
"จีนมีส่วนทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโตมากกว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วถึง 50% เนื่องจากมูลค่าทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศดังกล่าวรวมกันแล้วมีสัดส่วนเพียง 0.8% ของเศรษฐกิจโลกเท่านั้น" โรชกล่าว
สำหรับประเทศกำลังพัฒนาอย่างอินเดียนั้นมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังไม่แข็งแกร่งเท่าจีน โดยมีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัว 7.4% ในปีนี้ คิดเป็นสัดส่วน 0.6% ของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากอินเดียมีศักยภาพทางการผลิตเพียง 7.6% ของผลผลิตทั่วโลก