สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ผลผลิตน้ำมันดิบของประเทศร่วงลง 9.9% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2546 เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันปรับลดการผลิต หลังราคาน้ำมันทั่วโลกปรับตัวลดลง
ด้านยอดนำเข้าน้ำมันของจีนปรับตัวสูงขึ้น ภายหลังจากที่โรงกลั่นน้ำมันเอกชนได้รับอนุญาตให้นำเข้าน้ำมันดิบในปีที่แล้ว
ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ยอดนำเข้าน้ำมันดิบของจีนเพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ผลผลิตน้ำมันกลั่นสูงขึ้น 2.1%
ขณะเดียวกัน ซิโนเปค บริษัทกลั่นน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของจีน มีแผนปรับลดผลผลิตน้ำมัน หลังราคาน้ำมันผันผวน และ ปิโตรไชน่า ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ก็ปรับลดเป้าหมายการผลิตน้ำมันในปี 2559 เช่นกัน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ได้ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซล ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงอันเนื่องจากมาความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงตรึงการผลิต การเพิ่มผลผลิตของอิหร่าน และอุปสงค์ที่ซบเซาในสหรัฐ โดยนายจ้าว กงเจิง นักวิจัยของ NDRC ระบุว่า "มีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปในระยะสั้น โดยจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 40-50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล"