นักธุรกิจญี่ปุ่นคาดว่าภาคเศรษฐกิจและการเงินของเมียนมาจะขยายตัวอย่างรวดเร็วหลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐประกาศการยกเลิกการคว่ำบาตรต่อเมียนมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ นายโอบามาได้กล่าวต่อนางออง ซาน ซูจี รัฐมนตรีต่างประเทศและที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมาในระหว่างการเดินทางไปเยือนสหรัฐเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมาว่า เขามีแผนที่จะยกเลิกการคว่ำบาตรต่อเมียนมา
นางซูจีกล่าวต่อนายโอบามาว่า การยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมียนมาเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งบ่งชี้ว่า การยกระดับมาตรฐานชีวิตของชาวเมียนมาเป็นเรื่องที่เธอให้ความสำคัญมากที่สุด
ทั้งนี้ สหรัฐได้ยกเลิกการคว่ำบาตรต่อการนำเข้าของเมียนมาในปี 2555 หลังจากที่รัฐบาลทหารของเมียนมาได้คืนอำนาจการปกครองให้กับรัฐบาลพลเรือน นายโอบามาระบุเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า เขาจะคืนสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ให้กับเมียนมา
คาดว่า การคืน GSP จะส่งผลให้มูลค่าการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐของเมียนมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสมาคมสิ่งทอของเมียนมาคาดว่า ยอดการส่งออกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าหรือไม้กระทั่ง 3 เท่า
สหภาพยุโรปได้ยกเลิกการคว่ำบาตรต่อเมียนมาทั้งหมดในปี 2556 ยกเว้นการค้าอาวุธ ในขณะที่สหรัฐยังมีคำสั่งห้ามไม่ให้ภาคธุรกิจทำข้อตกลงกับประเทศที่มีรายชื่อต้องห้าม ส่งผลให้สหรัฐไม่ได้อยู่ในกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ 10 อันดับแรกของเมียนมา
อย่างไรก็ดี นักธุรกิจญี่ปุ่นรายหนึ่งกล่าวว่า สหรัฐจะเริ่มเข้ามาลงทุนในเมียนมา ในขณะมีธุรกิจญี่ปุ่นประมาณ 300 แห่งได้เข้ามาลงทุนในภาคการผลิตและการเงินของเมียนมา
“ปัจจุบันเมียนมาเป็นประเทศที่เป็นปกติแล้ว การแข่งขันกันอย่างเต็มรูปแบบได้เริ่มต้นแล้ว" เขากล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน