รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 23.1% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 2.00 ล้านล้านเยน (1.9 หมื่นล้านดอลลาร์) ทำสถิติเกินดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากการนำเข้าลดลงจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงและเงินเยนแข็งค่า
ทางด้านมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบร่วงลง 35.7% หลังราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยปรับตัวลดลง 23.1% สู่ระดับ 45.37 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนส.ค. ขณะที่มูลค่าการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวร่วงลง 34.6%
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่เกิดภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะในเดือนมี.ค. ปี 2554 ส่งผลให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่ต้องปิดตัวลงเพื่อทำการซ่อมแซม ในขณะที่หลายฝ่ายยังคงกังวลเกี่ยวกับประเด็นด้านความปลอดภัย