ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยกิจรรมทางธุรกิจที่ซบเซาในเดือนต.ค. และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ย.ที่ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบปีครึ่ง
เฟดสาขานิวยอร์กระบุว่า แบบจำลอง Nowcast แสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3 มีแนวโน้มขยายตัว 2.22% ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 2.30% และ GDP ไตรมาส 4 มีแนวโน้มขยายตัว 1.40% ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 1.56%
การเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 9% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.05 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว และยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.18 ล้านยูนิต เนื่องจากการก่อสร้างที่อยู่อาศัยแบบหลายครอบครัวร่วงลงอย่างหนัก
ขณะที่ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ซึ่งรายงานโดยเฟดสาขานิวยอร์กนั้น หดตัวเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนต.ค. เนื่องจากยอดสั่งซื้อใหม่, การขนส่ง และการจ้างงานต่างก็ปรับตัวลง
ทั้งนี้ ดัชนีภาคการผลิตร่วงลงสู่ระดับ -6.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และลดลงจากระดับ -2.0 ในเดือนก.ย.