สำนักงานความปลอดภัยคมนาคมออสเตรเลีย (ATSB) เปิดเผยว่า เมื่อได้ตรวจสอบชิ้นส่วนของเครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 ที่หายสาบสูญไปแล้ว ผลลัพธ์บ่งชี้ว่าเครื่องบินดังกล่าวได้ดิ่งลงทะเลอย่างรวดเร็ว ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของมนุษย์อย่างที่เคยตั้งทฤษฎีไว้ เนื่องจากชิ้นส่วนด้านในของ 'outboard flap' (ส่วนชายปีกที่ขยับได้สำหรับช่วยเพิ่มแรงยก) ซึ่งถูกพบที่ประเทศแทนซาเนียเมื่อเดือนมิ.ย.ปีนี้ ไม่ได้กางออกเมื่อเครื่องบินดิ่งลงทะเล ซึ่งหมายความว่าไม่มีผู้ใดบังคับเครื่องบินให้ร่อนลง
ทั้งนี้ เครื่องบินของเที่ยวบิน MH370 ได้สูญหายไปพร้อมกับผู้โดยสารซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและลูกเรือบนเครื่องจำนวน 239 คนเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2557 ในระหว่างการบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังปักกิ่ง การร่วมกันค้นหายังไม่พบส่วนลำตัวของเครื่องบินในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่เครื่องบินลำดังกล่าวสูญหายไป
ล่าสุดออสเตรเลียออกแถลงการณ์ว่า เศษซากส่วนปีกเครื่องบินที่พบในประเทศมอริเชียสเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นชิ้นส่วนจากเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 เที่ยวบินที่ MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์
รายงานระบุว่า ชิ้นส่วนที่พบล่าสุดนี้เป็นชิ้นที่ 3 โดยชิ้นส่วนแรกที่ได้รับการยืนยันว่ามาจาก MH 370 คือชิ้นส่วนแฟล็ปเพอรอน (flaperon) ซึ่งถูกพบบนเกาะเรอูนิยง เมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ส่วนชิ้นที่ 2 คือซากชิ้นส่วนด้านในของ outboard flap ซึ่งถูกพบที่ประเทศแทนซาเนียเมื่อเดือนมิ.ย.ปีนี้