การประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ซึ่งจัดเป็นเวลา 2 วัน เปิดฉากขึ้นที่กรุงลิมา ประเทศเปรู โดยหัวข้อหลักที่อยู่ในความสนใจของการประชุมครั้งนี้คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับชะตากรรมของข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ซึ่งที่ผ่านมาประสบกับภาวะชะงักงัน สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐมนตรีเอเปคเตรียมจะหารือในเรื่องมาตรการต่างๆที่จะนำไปสู่การจัดตั้งเขตการค้าเสรีภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (FTAAP) ให้สำเร็จลุล่วง โดย FTAAP นั้นมีขนาดของเศรษฐกิจรวมกันอยู่ที่ประมาณครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจโลก และคิดเป็น 60% ของมูลค่าการค้าทั่วโลก
นอกเหนือจากการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปคแล้ว จะมีการจัดประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่ม TPP ขึ้นคู่ขนานในวันศุกร์ ขณะที่การประชุมสุดยอดผู้นำ TPP และเอเปคมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันเสาร์และอาทิตย์นี้
การประชุมเอเปคครั้งนี้จัดขึ้นภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งทรัมป์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะของนักธุรกิจนิวยอร์กที่มีจุดยืนในการปกป้องการค้าและต่อต้านโลกาภิวัตน์ แนวคิดดังกล่าวได้สร้างความหวั่นวิตกให้แก่บรรดาประเทศคู่ค้าของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่นที่เคยให้คำมั่นว่าจะพยุงการค้าโลกเนื่องด้วยเป็นหนทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเคยรณรงค์ในระหว่างหาเสียงว่าจะยับยั้งข้อตกลง TPP โดยอ้างว่าข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนต้องตกงาน อีกทั้งยังบ่อนทำลายอุตสาหกรรมของสหรัฐอีกด้วย ซึ่งสวนทางกับการประชุมเอเปคระดับรัฐมนตรีที่กรุงลิมา โดยมุ่งหารือในประเด็นส่งเสริมการเปิดเสรีทางการค้าและการบูรณาการทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค