ทำเนียบขาวแห่งประธานาธิบดีสหรัฐยืนยันว่า ข้อตกลงของรัฐบาลสหรัฐในการจัดซื้อเครื่องบินประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐ หรือ "แอร์ฟอร์ซวัน" ลำใหม่จากบริษัทโบอิ้งนั้น จะยังเดินหน้าต่อไป หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐออกมาเรียกร้องผ่านทางทวิตเตอร์ของเขา ให้มีการยกเลิกการจัดซื้อเครื่องบินดังกล่าว โดยระบุว่ามีราคาแพงเกินไป
นายจอช เอิร์นเนสต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ผมเชื่อว่าประชาชนชาวอเมริกันต่างก็คาดหวังว่า ประธานาธิบดีของพวกเขาจะได้รับประโยชน์จากแอร์ฟอร์ซวันลำใหม่ที่มีสมรรถนะพิเศษและได้รับการยกระดับทางเทคโนโลยี ในขณะที่ท่านเดินทางด้วยเครื่องบินลำนี้"
อย่างไรก็ตาม นายเอิร์นเนสต์กล่าวว่า "สุดท้ายแล้วจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ว่า ต้องการให้โครงการจัดซื้อดังกล่าวลุล่วงหรือไม่"
"แอร์ฟอร์ซวันลำใหม่ที่จะมีการปรับปรุงทางเทคโนโลยีนั้น จะยังไม่เข้าประจำการจนกว่าจะถึงปี 2566 ซึ่งเป็นแผนในระยะยาว แต่ท้ายที่สุดแผนการดังกล่าวซึ่งเราทำเพื่อประธานาธิบดีในอนาคตนั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่จะตัดสินใจว่าจะให้เดินหน้าต่อหรือไม่" เขากล่าวเสริม
นายทรัมป์ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ว่า "โบอิ้งกำลังสร้างเครื่องบินโบอิ้ง 747 แบบใหม่สำหรับใช้เป็นแอร์ฟอร์ซวัน แต่ต้นทุนพุ่งสูงเกิน 4 พันล้านดอลลาร์ซึ่งอยู่เหนือการควบคุมไปแล้ว เพราะฉะนั้นให้ยกเลิกคำสั่งซื้อ"
หลังจากนั้น ทรัมป์ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า "เราต้องการให้โบอิ้งมีรายได้จำนวนมาก แต่ไม่ใช่เงินที่มากมายขนาดนี้"
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีฝ่ายใดออกมายืนยันว่าตัวเลขต้นทุนจำนวน 4 พันล้านดอลลาร์ที่ทรัมป์กล่าวถึงนี้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ ขณะที่นายเอิร์นเนสต์ ระบุว่า ข้อมูลบางอย่างที่ทรัมป์อ้างถึงนั้น ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงของข้อตกลงทางการเงินระหว่างโบอิ้งกับกระทรวงกลาโหมแต่อย่างใด
โฆษกทำเนียบขาวยังชี้แจงด้วยว่า การอัปเกรดเครื่องบินใหม่ ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงระบบความปลอดภัยให้ดีขึ้นด้วยนั้น เป็นไปตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญในด้านความมั่นคงแห่งชาติ
ขณะที่โบอิ้งออกมาแถลงเมื่อวานนี้ว่า "บริษัทกำลังดำเนินการตามสัญญามูลค่า 170 ล้านดอลลาร์ในการช่วยกำหนดสมรรถนะต่างๆสำหรับเครื่องบินที่มีระบบอันซับซ้อนนี้เ พื่อให้เป็นไปตามความต้องการอย่างเฉพาะเจาะจงของประธานาธิบดีสหรัฐ"
ทั้งนี้ เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน 2 ลำที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เป็นเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 747-200 ซึ่งใช้งานมาตั้งแต่ในยุคสมัยของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนในช่วงทศวรรษ 1980 ถึงแม้ว่าเครื่องบินทั้ง 2 ลำนี้จะได้รับการดัดแปลงให้มีความทันสมัยขึ้น แต่ก็ใกล้จะครบกำหนดอายุการใช้งานระยะ 30 ปีซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2560 สำนักข่าวซินหัวรายงาน