ทางการอิหร่านได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ หรือรัฐบาลสหรัฐ ฉีกข้อตกลงซื้อเครื่องบินที่ทางอิหร่านจัดทำขึ้นกับบริษัทโบอิ้งหลังนายทรัมป์ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว อิหร่านก็จะดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหาย โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อิหร่านได้มีข้อตกลงซื้อเครื่องบินโบอิ้งเป็นจำนวน 80 ลำ เป็นวงเงิน 1.66 หมื่นล้านดอลลาร์
นายฟาร์ฮาด พาร์วาเรช ประธานบริหารของสายการบินอิหร่าน แอร์ ซึ่งเป็นสายการบินของรัฐบาลอิหร่าน เปิดเผยว่า ทั้งทางอิหร่านและโบอิ้งมีความประสงค์ที่จะปิดดีลให้ได้เร็วที่สุด และโชคดีที่สามารถทำข้อตกลงก่อนนายทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนหน้าได้ โดยทั้งสองฝ่ายได้เตรียมการรับมือในกรณีที่มีการละเมิดสัญญาหรือเหตุสุดวิสัยไว้แล้ว นอกจากนี้ ทางอิหร่านยังเชื่อมั่นด้วยว่าจะสามารถระดมเงินทุนเพื่อจัดซื้อเครื่องบินดังกล่าวได้
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทโบอิ้งได้ประกาศลงนามในข้อตกลงเพื่อขายเครื่องบินให้กับสายการบินอิหร่าน แอร์ โดยระบุว่าทางบริษัททำข้อตกลงภายใต้การได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลสหรัฐ หลังจากที่อิหร่านได้ปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มีการบรรลุกับชาติมหาอำนาจเมื่อปีที่แล้ว
โบอิ้งยังระบุด้วยว่า ทางบริษัทจะยังคงดำเนินการภายใต้นโยบายของรัฐบาลสหรัฐ โดยการทำสัญญาใดๆกับสายการบินของอิหร่านจะขึ้นอยู่กับการอนุมัติของรัฐบาลสหรัฐ
ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งนั้น นายทรัมป์มักจะวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านอยู่เสมอ โดยมองว่าเป็นข้อตกลงที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ที่สหรัฐเคยเจรจามา นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังได้ส่งสัญญาณว่าจะกดดันให้อิหร่านกลับมาเจรจาข้อตกลงดังกล่าวใหม่อีกครั้ง หรืออาจจะยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์ในที่สุด
เมื่อเดือนก.ค. 2558 อิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจ ได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส และเยอรมนี ได้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ร่วมกัน โดยโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านจะถูกควบคุมเข้มงวดยิ่งขึ้น แลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน