ลาวมีแผนจะเพิ่มการส่งออกข้าวไปยังประเทศจีนในปีหน้า หลังจากที่ผู้ซื้อจีนพอใจในคุณภาพข้าวของลาว
เวียงจันทน์ไทม์ส รายงานว่า ลาวได้เริ่มขายข้าวให้กับจีนในปี 2558 โดยกระทรวงการเกษตรของลาวคาดว่า ตัวเลขส่งออกข้าวเหนียวและข้าวก่ำจะอยู่ที่ราว 4,200 ตันในปี 2559 และจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 8,000 ตันในปี 2560 เนื่องจากความต้องการจากตลาดจีนเพิ่มสูงขึ้น
ในเดือนมี.ค. 2558 บริษัท Xuanye (Lao) Co., Ltd ได้รับการอนุมติจากคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ของจีนให้เป็นผู้ส่งออกข้าวจากประเทศลาวมายังประเทศจีนแต่เพียงผู้เดียว โดยให้โควต้าที่ 8,000 ตัน
ผลิตภัณฑ์ข้าวหลักๆนั้นมาจากจังหวัดสะหวันนะเขต ภายใต้แผนการส่งเสริมการลงทุนในชื่อ 2+3 Investment Promotion Scheme ซึ่งภายใต้แผนการนี้ เกษตรกรจะมีส่วนร่วมในแง่ของที่ดินและแรงงาน ขณะที่บริษัทจะจัดหาเงินทุน ความช่วยเหลือทางเทคนิค และตลาด
สำหรับความท้าทายที่สำคัญสำหรับเกษตรกรลาวก็คือการต้นทุนสินค้าและการขนส่งที่อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
การเปิดตลาดจีนถือเป็นการยกระดับบทบาทของกระทรวงเกษตรและป่าไม้ของลาวในการส่งเสริมข้าวลาวให้เห็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่ได้มาตรฐานสากล
กระทรวงฯ ยังได้ดำเนินโครงการนำร่องเพื่อปลูกข้าวให้เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสำหรับส่งออกไปยังจีน โดยให้ความสำคัญกับน้ำ เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และฤดูกาล
การเปิดตัวตลาดข้าวอินทรีย์ของลาวในประเทศจีนถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับข้าวลาวในการเข้าถึงตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก ซึ่งจะเป็นการรับประกันตลาดให้กับเกษตรกรชาวลาว และช่วยขจัดความยากจนในลาว
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2543 ลาวส่งออกข้าวกว่า 300,000 ตันต่อปีไปยังเวียดนาม ไทย จีน และประเทศอื่นๆ
ลาวมีแผนผลิตข้าวประมาณ 5 ล้านตันภายในปี 2563 เพื่อรับประกันความมั่นคงด้านอาหารในประเทศ สำหรับในปีการเงินนี้ การผลิตข้าวของลาวแตะที่ 4.12 ล้านตัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.35 ล้านตันในปีหน้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน