สิงคโปร์ได้ตั้งข้อหานายเจนส์ เฟรด สเตอร์เซเนกเกอร์ อดีตผู้จัดการสาขาของฟอลคอน ไพรเวท แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารของสวิตเซอร์แลนด์ว่า มีส่วนพัวพันกับกองทุนวัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) ซึ่งเป็นกองทุนอื้อฉาวมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของมาเลเซีย โดยนายสเตอร์เซเนกเกอร์ถูกตั้งข้อหาทั้งสิ้น 16 กระทง
เอกสารของศาลสิงคโปร์ระบุว่า นายสเตอร์เซเนกเกอร์ วัย 42 ปี สัญชาติสวิส ถูกพิจารณาคดีในข้อหาละเลยการยื่นรายงานเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่ธนาคาร โดยนายสเตอร์เซเนกเกอร์ถือเป็นบุคคลที่ 5 และเป็นชาวต่างชาติรายแรกที่ถูกพิจารณาคดีโดยศาลสิงคโปร์ในข้อหาเกี่ยวพันกับเม็ดเงินหมุนเวียนของกองทุน 1MDB
ทั้งนี้ หนึ่งในข้อหาที่ศาลระบุไว้นั้น มีใจความว่า นายสเตอร์เซเนกเกอร์ไม่ได้เปิดเผยต่อทางการเกี่ยวกับเม็ดเงินมูลค่า 1.265 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ไหลเข้าสู่บัญชี 2 บัญชีในธนาคารฟอลคอนเมื่อเดือนมี.ค.2556 นอกจากนี้ เขายังถูกตั้งข้อหาว่าให้ข้อมูลเท็จต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวน เพื่อช่วยให้นายโลว์ เต็ค โฮ เพื่อนสนิทของครอบครัวนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ไม่ต้องถูกดำเนินคดี
ธนาคารฟอลคอน นับเป็นธนาคารแห่งที่ 2 ที่ถูกธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) สั่งปิดสาขาในสิงคโปร์ เนื่องจากการตรวจสอบพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทุนอื้อฉาว 1MDB
ส่วนในเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว ธนาคารบีเอสไอ แบงก์ ลิมิเต็ด ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ถูกสั่งให้ปิดกิจการ เนื่องจากพบว่ามีการละเมิดกฎระเบียบการฟอกเงิน, มีการบริหารจัดการที่ย่ำแย่ และพนักงานบางคนของธนาคารมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สำนักข่าวเกียวโดรายงาน