นายคาร์ลอส กอส์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของนิสสัน มอเตอร์ เปิดเผยว่าจะจับตาดูนโยบายการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังนายทรัมป์ได้ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีจากบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ในอัตราที่สูงขึ้น หากผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นรายนี้ ยังเดินหน้าตามแผนการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์รุ่น "โคโรลลา" ในเม็กซิโก เพื่อป้อนให้กับตลาดสหรัฐ
นายกอส์นกล่าวกับสื่อมวลชนที่ลาสเวกัส ระหว่างเข้าร่วมงานมหกรรม Consumer Electronics Show (CES) ว่า "พวกเราทั้งหมดจำเป็นต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่านโยบายใหม่จะเป็นไปในทิศทางใด มีกฎระเบียบอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งระเบียบการค้าอเมริกาเหนือ"
นายทรัมป์เคยประกาศว่า "อเมริกาต้องมาก่อน" ด้วยการกดดันให้บริษัทต่างๆหันมาจ้างงานและดำเนินการผลิตในสหรัฐ พร้อมให้คำมั่นเพื่อเจรจาความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ใหม่ ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโก
นายกอส์นระบุว่า ขณะนี้จำเป็นต้องอดทนจนกว่านายทรัมป์จะขึ้นดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการวันที่ 20 ม.ค.นี้ โดยเขากล่าวว่า "นับจนถึงวันนี้ยังไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น" และกล่าวเสริมว่าเขา "ไม่ได้มีปัญหา" กับแนวคิด "อเมริกาต้องมาก่อน" ของนายทรัมป์
ทั้งนี้ นิสสัน ซึ่งเป็นค่ายรถยนต์รายใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น มีฐานการส่งออกขนาดใหญ่ในเม็กซิโก
นิสสันได้เริ่มดำเนินการผลิตในเม็กซิโกเมื่อช่วงปี 2500 ตามมาด้วยฮอนด้า มอเตอร์ ในปี 2538 และมาสด้าในปี 2557
ด้านนายคาซุโอะ ฮิราอิ ประธานบริษัทโซนี่ คอร์ป ได้แสดงความคาดหวังว่า ว่าที่ปธน.ทรัมป์จะให้การสนับสนุนหลักการทำธุรกิจแบบเปิดกว้าง
นายฮิราอิ ซึ่งเข้าร่วมงาน CES ที่ลาสเวกัสเช่นกัน กล่าวว่า "ผมขอให้ผู้นำทั่วโลกให้การรับรองว่า บุคคล สินค้า เม็ดเงิน และข้อมูลข่าวสาร จะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเสรี"
สำหรับโซนี่นั้นดำเนินการผลิต DVD ในเม็กซิโกเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา สำนักข่าวเกียวโดรายงาน