นายสก็อต มอร์ริสัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียต้องปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อรักษาการความสามารถในแข่งขัน ไม่เช่นนั้นธุรกิจของออสเตรเลียอาจไม่สามารถอยู่รอดในตลาดโลกได้
ปัจจุบัน อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของออสเตรเลียอยู่ที่ 30% ซึ่งติดหนึ่งในห้าอันดับประเทศที่เก็บอัตราภาษีสูงที่สุดในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)
นายมอร์ริสันกล่าวว่า ออสเตรเลียทำลายธุรกิจของประเทศต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เมื่อเทียบกับประเทศที่ยอมเก็บภาษีในอัตราที่น้อยลง
เขากล่าวว่า รัฐบาลมีแผนที่จะปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงจาก 30% เหลือ 25% ภายในปี 2569-2570 เพื่อรักษาความสามารถการแข่งขันในระดับโลก
"ถ้าทั้งรัฐสภาและฝ่ายค้านเลือกที่จะไม่สนับสนุนการรักษาความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของประเทศ เมื่อนั้นธุรกิจของเราจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการอยู่รอด" นายมอร์ริสันกล่าวกับนิวส์คอร์ปในวันนี้ โดยย้ำว่า "มันไม่ง่ายที่จะเดินหน้าต่อไปโดยที่ไม่ปรับลดภาษี"
ทั้งนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคลของออสเตรเลียนับว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศชั้นนำอื่นๆ โดยภาษีเงินได้นิติบุคคลของแคนาดาอยู่ที่ 15% สิงคโปร์ 17.5% และอังกฤษ 20%
ขณะที่สหรัฐอเมริกาซึ่งแม้จะเก็บภาษีสูงถึง 35% แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มีแผนการที่จะลดภาษีลงเหลือเพียง 15% เพื่อกระตุ้นการเติบโต สำนักข่าวซินหัวรายงาน