ญี่ปุ่นจับตาผลกระทบทางธุรกิจจากความขัดแย้ง "สหรัฐ-เม็กซิโก"

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 27, 2017 16:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะจับตาดูสถานการณ์ที่ตึงเครียดทางการค้าระหว่างรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐกับเม็กซิโกว่า จะส่งผลกระทบต่อบริษัทญี่ปุ่นอย่างไร โดยเฉพาะบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่ทำการค้าข้ามพรมแดนมูลค่ามหาศาลระหว่างสองประเทศ

นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น กล่าวกับสื่อมวลชนภายหลังการประชุมครม.ในวันนี้ว่า "บริษัทญี่ปุ่นกระจายห่วงโซ่อุปทานอยู่ตามพื้นที่ต่างๆในเม็กซิโก ดังนั้น เราจึงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบกับเราหรือไม่"

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโกทวีความตึงเครียดขึ้นจนน่าวิตก หลังจากประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนญา นิเอโตของเม็กซิโก ประกาศยกเลิกการเดินทางเยือนสหรัฐในสัปดาห์หน้า สืบเนื่องจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยืนกรานว่า เม็กซิโกจะต้องจ่ายเงินสมทบเข้าโครงการก่อสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนติดกับเม็กซิโก

สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายขึ้น เมื่อโฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยในวันนี้ว่า ปธน.ทรัมป์ ซึ่งเชิดชูนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" กำลังพิจารณาที่จะออกมาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกในอัตราสูงถึง 20% เพื่อนำมาใช้สร้างกำแพง

ด้านนายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงคลังญี่ปุ่น ได้แสดงความกังขาเกี่ยวกับแนวคิดภาษีนำเข้าดังกล่าว โดยระบุว่า ความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโกอาจส่งทั้งผลดีและผลเสีย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นว่า นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ จะผลักดันประเด็นดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมระดับผู้นำระหว่างสองประเทศซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้หรือไม่ ซึ่งโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นตอบว่า รายละเอียดเกี่ยวกับการค้าข้ามพรมแดนนี้ยังไม่มีความชัดเจนมากพอ ดังนั้นจึงไม่สามารถแสดงความคิดเห็นในขณะนี้ได้

"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นจะทวงถาม (ปธน.ทรัมป์) อย่างถี่ถ้วน เกี่ยวกับความสำคัญของเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม" นายซูกะกล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ