นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังของสหรัฐ ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทแอปเปิล อิงค์ ขณะที่ราคาหุ้นแอปเปิลทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่สองในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ โดยได้อานิสงส์จากยอดขายไอโฟน 7 ที่พุ่งขึ้นแซงหน้าสมาร์ทโฟนของบริษัทซัมซุง
รายงานของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนของนายบัฟเฟตต์ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ระบุว่า ทางบริษัทได้เพิ่มการถือหุ้นในแอปเปิล อิงค์ เป็น 57.96 ล้านหุ้น ณ สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2559 โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 15.23 ล้านหุ้น ณ วันที่ 30 ก.ย. 2559
ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นราว 2.5% ในช่วงไตรมาส 4/2559 จากนั้นราคาได้ปรับตัวขึ้นอีก โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาสแรกเดือนต.ค.-ธ.ค. และล่าสุดเมื่อคืนนี้ ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 16.6% ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่สอง
ทั้งนี้ แอปเปิลเปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสเดือนต.ค.-ธ.ค. บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.79 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.38 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับ 1.84 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.30 ดอลลาร์/หุ้น ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจากยอดขายไอโฟน 7 ที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 78.29 ล้านเครื่อง จาก 74.78 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 77.42 ล้านเครื่อง
ทั้งนี้ หากราคาหุ้นแอปเปิลปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง มูลค่าหุ้นแอปเปิลที่นายบัฟเฟตต์ถือครองอยู่นั้น อาจจะเพิ่มขึ้น 1.1 พันล้านดอลลาร์ จากระดับที่เขาถือครองในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมา