สื่อตะวันตกได้ติดตามสถานการณ์งบประมาณด้านกลาโหมของจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางการจีนประกาศเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมในปี 2560 เพียง 7% ซึ่งนับเป็นอัตราที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2553
สำนักข่าวเอพีระบุว่า จีนเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมในอัตราที่ต่ำลง แม้ว่าสถานการณ์ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้และประเด็นอื่นๆจะร้อนระอุขึ้นก็ตาม
เอพีรายงานว่า ในปีนี้จีนเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมค่อนข้างน้อย และเป็นการเพิ่มในอัตราต่ำลงติดต่อกันปีที่ 3 โดยในปี 2559 จีนได้เพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม 7.6% และ 10.1% ในปี 2558
จากการเพิ่มงบกลาโหมครั้งนี้ คาดว่าจีนจะจัดสรรงบประมาณด้านกลาโหมในวงเงิน 1 ล้านล้านหยวน (1.45 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ตาม เอพีรายงานว่า จีนยังห่างชั้นมากเมื่อเทียบกับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ที่เรียกร้องให้สภาคองเกรสเพิ่มงบกลาโหม 10% ในปีนี้ หรือ 54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว
ทางด้านสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเห็นพ้องกับเอพี โดยรายงานว่า การเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมของจีนในปีนี้ "เป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 7 ปี และถูกแซงหน้าโดยสหรัฐ โดยในปี 2558 งบประมาณด้านกลาโหมของสหรัฐคิดเป็นสัดส่วน 36% ของงบกลาโหมทั่วโลก"
ขณะที่บีบีซี และอาร์ที ตั้งข้อสังเกตว่า จีนประกาศเพิ่มงบกลาโหมปีนี้ในอัตราต่ำลง โดยอาร์ทีรายงานว่า เป็นอัตราการเพิ่มที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2553
ส่วนวอลล์สตรีทเจอร์นัลได้รายงานข่าวนี้ด้วยเช่นกัน ในบทความชื่อ "China eases foot off gas on military spending" (จีนลดการใช้จ่ายด้านกลาโหม)
วอชิงตันโพสต์ ได้รายงานเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ในทำนองเดียวกัน ในสกู๊ป "As Trump pushes for bigger U.S. defense budget, China slows growth rate of its military spending. (ทรัมป์ผลักดันงบประมาณกลาโหมสหรัฐเพิ่มขึ้น ขณะจีนชะลอการใช้จ่ายด้านกลาโหม)
บทความดังกล่าวระบุว่า สหรัฐใช้จ่ายด้านกลาโหมมากขึ้นทั้งในแง่ตัวเลขและสัดส่วนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
นางฟู หยิง โฆษกสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) กล่าวว่า การใช้จ่ายด้านกลาโหมของจีนจะยังคงอยู่ในอัตราส่วนเพียง 1.3% ของตัวเลข GDP เมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่เป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ซึ่งให้คำมั่นว่าจะจัดสรรงบประมาณด้านกลาโหมอย่างน้อย 2% ของตัวเลข GDP
วอชิงตันโพสท์ รายงานโดยอิงข้อมูลของสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศแห่งกรุงสต็อกโฮล์ม (SIPRI) ว่า ในปี 2559 นั้น การใช้จ่ายด้านกลาโหมของจีนมีสัดส่วน 1.9% ของ GDP ขณะที่สหรัฐมีการใช้จ่ายด้านกลาโหมคิดเป็น 3.3% ของ GDP
วอชิงตันโพสท์ยังได้รายงานคำพูดของผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมของจีนรายหนึ่ง โดยเขากล่าวว่า จีนเพิ่มงบกลาโหมก็เพื่อพัฒนากองทัพจีนให้ทันสมัย ซึ่งเป็นความพยายามที่จีนดำเนินการมาอย่างยาวนาน ไม่ได้เป็นการแข่งขันกับสหรัฐแต่อย่างใด สำนักข่าวซินหัวรายงาน