นายนูแมน เคอร์ตุลมุส รองนายกรัฐมนตรีตุรกี เปิดเผยว่า ทางการตุรกีเตรียมคว่ำบาตรทางการเมืองต่อเนเธอร์แลนด์ หลังทางการเนเธอร์แลนด์ได้มีคำสั่งห้ามไม่ให้นักการเมืองตุรกีเข้าประเทศ เพื่อกล่าวปราศรัยหาเสียงให้กับชาวตุรกีในเนเธอร์แลนด์ ก่อนหน้าที่ตุรกีจะจัดการลงประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในเดือนเมษายนนี้
นายเคอร์ตุลมุส แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อหารือเรื่องมาตรการจัดการกับเนเธอร์แลนด์ว่า การคว่ำบาตรดังกล่าวน่าจะอยู่ภายใต้กรอบทางการเมืองเป็นหลัก
-- สภาขุนนาง (House of Lords) ของอังกฤษ มีมติผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งจะปูทางให้นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษสามารถใช้มาตรการ 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป (EU) เพื่อเริ่มกระบวนการ Brexit ต่อไป
-- นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องให้สภาคองเกรสสืบสวนคดีการดักฟังโทรศัพท์ของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งนายทรัมป์อ้างว่า รัฐบาลชุดก่อนได้ทำการสอดแนมข้อมูลของเขาในระหว่างช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่ผ่านมา
-- เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ (UN) ออกมาปฏิเสธว่า ชายที่ถูกฆาตกรรมที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียเมื่อเดือนที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่นายคิม จอง นัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ พร้อมกล่าวโทษสหรัฐและเกาหลีใต้ว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้
นายคิม อิล ยอง ทูตเกาหลีเหนือประจำ UN ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า คดีฆาตกรรมดังกล่าวเป็นความตั้งใจของทางการสหรัฐและเกาหลีใต้ ที่ต้องการทำลายภาพลักษณ์อันสง่างามและระบบการปกครองแบบสังคมนิยมของเกาหลีเหนือ