แกนนำรัฐสภาสหรัฐที่สนับสนุนให้ส่งเสริมความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นได้แสดงเจตจำนงค์เรื่องการยกระดับความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจกับญี่ปุ่น แม้ว่าสหรัฐจะถอนตัวออกจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ก็ตาม
นายโจแอควิน แคสโตร สมาชิกผู้แทนราษฎรรัฐเท็กซัส และประธานร่วมของกลุ่มคอคัสสหรัฐ-ญี่ปุ่นได้กล่าวถึงแนวโน้มข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐ-ญี่ปุ่นว่า "ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐ-ญี่ปุ่น เราต้องการที่จะสร้างความมั่นใจว่า ความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจของเราจะยังคงแข็งแกร่งดังเช่นทุกวันนี้ และจะเติบโตยิ่งขึ้นต่อไป"
นายแคสโตรได้ขึ้นกล่าวในระหว่างพิธีเปิดการประชุมกลุ่มคอคัสในกรุงวอชิงตัน ซึ่งการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมของกลุ่มรัฐสภาของสองประเทศที่มีสมาชิกจำนวนมากกว่า 100 ราย
นายแคสโตร กล่าวว่า "ผมมักจะย้ำเตือนกับบรรดาพวกพ้องที่บ้านว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับญี่ปุ่นมีความลึกซึ้ง โดยแต่ละประเทศเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 และอันดับ 3 เรามีโอกาสพิเศษในการสานต่อความสัมพันธ์ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการค้า" คำกล่าวของนายแคสโตรเกิดขึ้นในระหว่างที่มีกระแสรายงานข่าวอย่างต่อเนื่องว่า รัฐบาลของทั้งสองประเทศกำลังพิจารณาจัดประชุมเศรษฐกิจระดับสูงแบบทวิภาคีในวันที่ 18 เม.ย. นี้ที่กรุงโตเกียว
การประชุมเศรษฐกิจดังกล่าวนำโดยนายทาโร อาโสะ รองนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะมีการหารือกันในประเด็นว่าด้วยการค้าและนโยบายเศรษฐกิจมหภาค รวมไปถึงโครงการต่าง ๆ ในด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน
ทั้งนี้ ทางการสหรัฐและญี่ปุ่นยังคงไม่มีข้อกำหนดที่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการทำข้อตกลงการค้าเสรีระดับทวิภาคีระหว่างสองประเทศ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 30% ของเศรษฐกิจโลก สำนักข่าวเกียวโดรายงาน