พายุไซโคลน "เด็บบี" ซึ่งเป็นพายุไซโคลนมีกำลังแรงที่สุดในรอบ 6 ปี ได้พัดเข้าสู่ชายฝั่งรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวานนี้ ขณะที่ปฏิบัติการกู้ภัยและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยยังคงดำเนินต่อไปในวันนี้
ทางด้านนายยมัลคอล์ม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงภัยพิบัติดังกล่าวกับสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง โดยเขากล่าวว่า พายุไซโคลนลูกนี้เปรียบเหมืองระเบิดที่สร้างความเสียหายในพื้นที่บนเกาะวิทซันเดย์และเมืองแมคเคย์ของรัฐควีนส์แลนด์ทางตอนเหนือของประเทศ
อย่าไงรก็ตาม นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียให้คำมั่นต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ ว่า ทางการออสเตรเลียจะดำเนินทุกวิถีทางเพื่อความปลอดภัย รวมถึงปฏิบัติการช่วยเหลือจากกองทัพออสเตรเลีย ซึ่งจะประสานงานกับทีมกู้ภัยฉุกเฉินตามพื้นที่ประสบภัย
พายุไซโคลนเด็บบีได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง โดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักสุดมีทั้งเกาะยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในแถบเกาะวิทซันเดย์ ซึ่งรวมถึงเกาะที่มีคนจีนเป็นเจ้าของอย่างเกาะเดย์ดรีมและแฮมิลตัน
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวไม่ได้เป็นอุตสาหกรรมเดียวที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติดังกล่าว โดยบรรดาเกษตรกรก็มีความวิตกเรื่องผลผลิตเช่นกัน หลังพายุไซโคลนได้ก่อให้เกิดฝนตกหนักและเกิดเป็นภัยน้ำท่วมตามมาจนคุกคามความเป็นอยู่
กลุ่มผู้ปลูกอ้อยกว่า 1000 รายก็ได้รับผลกระทบจากพายุเด็บบีเช่นกัน โดยนายแดน กัลลิแกน ซีอีโอของ Canegrowers ระบุในแถลงการณ์ว่า อ้อยที่ปลูกไว้กว่าบนพื้นที่กว่า 100 เฮกตาร์ถูกโค่นจนราบเป็นหน้ากลอง ซึ่งจะสามารถประเมินความเสียหายได้อย่างสมบูรณ์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ด้านนายเครก เจมส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก CommSec เปิดเผยว่า 1 ใน 4 ของน้ำตาลที่ผลิตในออสเตรเลียนั้นมาจากภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากไซโคลนเด็บบี