นายแดเนียล ทารุลโล หนึ่งในคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันเมื่อวานนี้ โดยเขาได้กล่าวเตือนเกี่ยวกับการแก้ไขกฎระเบียบที่เข้มงวดของกฎหมายดอดด์-แฟรงค์ ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลกำลังเตรียมการแก้ไขกฎหมายดอดด์-แฟรงค์ เพื่อให้ธนาคารต่างๆสามารถปล่อยกู้ได้สะดวกขึ้น
กฎหมายดอดด์-แฟรงค์ เป็นกฎหมายที่รัฐบาลของอดีตปธน.บารัค โอบามา เคยใช้กู้วิกฤตการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2550-2552 โดยกำหนดให้มีความเข้มงวดในการทำธุรกรรมทางการเงินในด้านต่างๆ
อย่างไรก็ตาม นายทารุลโลมองว่า ทางการสหรัฐควรดำเนินการแก้ไขกฎโวล์คเกอร์ (Volker Rule) ซึ่งเป็นกฎหมายควบคุมภาคธนาคาร พร้อมกับกล่าวว่า กระบวนการปรับแก้ไขข้อกำหนดทางกฎหมายนั้น จะกระทำโดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงิน
ทั้งนี้ นายทารุลโลกล่าวว่า กฎหมายควรคงไว้ซึ่งข้อกำหนดให้สถาบันการเงินมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลไม่ควรปล่อยให้มีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดดังกล่าว ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม เพราะอาจจะส่งผลให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านการเงินเช่นในอดีต
นอกจากนี้ นายทารุลโลยังเห็นด้วยกับคำวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิเคราะห์ที่ว่า กฎโวล์คเกอร์ได้ส่งกระทบต่อการสร้างสภาพคล่อง (market making) โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์บางกลุ่มได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า กฎโวล์คเกอร์เป็นสาเหตุที่ทำให้มีแรงเทขายเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในตลาดพันธบัตร เมื่อเดือนต.ค. 2557
กฎโวล์คเกอร์ ซึ่งตั้งชื่อตามนามสกุลของนายพอล โวล์คเกอร์ อดีตประธานเฟดนั้น มีเนื้อหาที่อิงกับกฎหมายดอดด์-แฟรงค์ ซึ่งเป็นกฎหมายปฏิรูปการเงินที่ได้รับอนุมัติจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา เมื่อเดือนก.ค. 2553 เพื่อห้ามไม่ให้ภาคการธนาคารทำธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูง หรือที่เรียกว่าการกำกับดูแลบัญชีซื้อขายของบริษัทธนาคารเอง (Proprietary Trading)