กระทรวงคมนาคมสหรัฐ (DOT) เปิดเผยว่า จะตรวจสอบกรณีที่พนักงานของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ลากผู้โดยสารซึ่งเป็นชายชาวเอเชียรายหนึ่งลงจากเครื่องบินโดยสาร หลังจากมีการขายตั๋วเกินจำนวนที่นั่ง
แถลงการณ์ดังกล่าวมีใจความว่า "ทางกระทรวงฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะปกป้องสิทธิของผู้บริโภคและกำลังตรวจสอบการลงจากเครื่องบินโดยสารยูไนเต็ด เอ็กซ์เพรส เที่ยวบินที่ 3411 โดยไม่สมัครใจของชายชาวเอเชียคนดังกล่าวเพื่อตรวจสอบว่าสายการบินปฏิบัติตามกฎการบินนานาชาติหรือไม่ "
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การตรวจสอบดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 3 นายของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ณ ท่าอากาศยานโอแฮร์ ในชิคาโก ลากผู้โดยสารชาวเอเชียลงจากที่นั่งบนเครื่องบินไปตามทางเดิน ทำให้แว่นตาของเขาบิดเบี้ยว อีกทั้งเสื้อเชิ้ตที่เขาใส่อยู่ยังถูกถกขึ้นไปบนหน้าท้อง ขณะที่ภาพอื่น ๆ ซึ่งถูกถ่ายบนเครื่องบินลำเดียวกันนี้ยังปรากฎให้เห็นว่ามีเลือดไหลออกมาจากบริเวณใบหน้าของเขาด้วย
ด้านยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ออกมาเปิดเผยว่า ทางสายการบินจำหน่ายตั๋วเกินจำนวนที่นั่งบนเที่ยวบิน จึงขอให้อาสาสมัคร 4 รายสละที่นั่ง โดยจะจ่ายชดเชยเงินจำนวน 800 ดอลลาร์สหรัฐให้ ปรากฏว่าไม่มีผู้โดยสารแสดงตัวเป็นอาสาสมัครตามที่มีการร้องขอ สายการบินจึงประกาศว่าจะใช้คอมพิวเตอร์ในการสุ่มเลือกอาสาสมัครที่ต้องสละที่นั่ง โดยผู้โดยสารที่ถูกเลือกรายหนึ่งปฏิเสธ พนักงานของสายการบินจึงเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขึ้นมาลากตัวลงจากเครื่องบินไป
สำหรับผู้โดยสารอีก 3 รายจำใจปฏิบัติตามคำร้องขอของสายการบิน ขณะที่ผู้โดยสารรายที่ 4 ซึ่งเป็นนายแพทย์อายุ 59 ปีระบุว่าเขาต้องเดินทางไปรักษาคนไข้รายหนึ่ง จึงปฏิเสธที่จะลงจากเครื่อง
"แม้ว่าการใช้กำลังเชิญผู้โดยสารลงจากเที่ยวบินซึ่งขายตั๋วเกินจำนวนที่นั่งจะเป็นการกระทำที่ถูกกฏหมายกรณีที่ไม่มีผู้อาสาลงจากเที่ยวบินนั้น ๆ แต่ทางสายการบินควรแสดงความรับผิดชอบในการเชิญผู้โดยสารลงจากเที่ยวบินอย่างเป็นธรรม"