สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ของสหรัฐว่า แผนการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จะไม่มีการบรรจุนโยบายการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้า ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มผู้ผลิตต่างประเทศที่ส่งออกสินค้ามายังสหรัฐนั้น เริ่มคลายความวิตกกังวล
นิวยอร์ก ไทม์สระบุว่า การที่นโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าข้ามพรมแดน "ถูกตัดออก" ออกจากแผนการปฏิรูปภาษีนั้น แสดงให้เห็นว่าปธน.ทรัมป์ไม่สามารถต้านทางกระแสกดดันจากกลุ่มบริษัทค้าปลีกและกลุ่มอนุรักษ์นิยมได้
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐระบุว่า การขึ้นภาษีสินค้านำเข้านั้น มีเป้าหมายที่จะชดเชยการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล จากเดิมที่ 35% ลงมาอยู่ที่ 15% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะนิวยอร์กไทมส์มองว่า แม้นโยบายการขึ้นภาษีสินค้านำเข้ายังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในขณะนี้และทำให้ต้องถูกตัดออกไป แต่ยังคงมีโอกาสที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่เป็นที่แน่ชัดว่า แผนปฏิรูปของรัฐบาลทรัมป์ในครั้งนี้ จะรวมถึงการทุ่มงบประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานตามที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้หรือไม่