ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีฉบับใหม่ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกเลิกข้อจำกัดในการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งของสหรัฐในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ระบุจะช่วยสร้างงานหลายพันตำแหน่ง แม้ในยามที่ตลาดน้ำมันอยู่ในช่วงขาลง
"ประเทศของเรามีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งรวมถึงแหล่งน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่ง แต่รัฐบาลกลางได้ปิดกั้นพื้นที่นอกชายฝั่งถึง 94% จากการสำรวจและการผลิต" ทรัมป์กล่าวในพิธีลงนามที่ทำเนียบขาว
"สิ่งนี้กีดกันประเทศของเราจากการสร้างงานเป็นพันๆ ตำแหน่ง และสร้างความมั่นคั่งหลายพันล้านดอลลาร์"
ทรัมป์กล่าวว่า คำสั่งของเขา ซึ่งมีชื่อว่า "Implementing an America-First Offshore Energy Strategy" จะเริ่มต้นกระบวนการในการเปิดพื้นที่นอกชายฝั่งเพื่อการสำรวจพลังงาน ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างงาน
คำสั่งของนายทรัมป์อาจนำไปสู่การยกเลิกคำสั่งห้ามให้เช่าพื้นที่นอกชายฝั่งเพื่อการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในมหาสมุทรอาร์กติกและแอตแลนติก ซึ่งได้รับการอนุมัติให้มีผลบังคับใช้โดยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา เมื่อช่วงปลายเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังได้สั่งการให้รัฐมนตรีมหาดไทย ไรอัน ซิงก์ ทำการทบทวนแผนการพัฒนาการสำรวจน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งของสหรัฐในระหว่างปี 2560-2565 ซึ่งจัดทำแล้วเสร็จภายใต้คณะบริหารของอดีตปธน.โอบามาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม คำสั่งล่าสุดนี้ของปธน.ทรัมป์ได้เผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดานักสิ่งแวดล้อม ซึ่งชี้ว่าการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซหลายเหตุการณ์ในอดีตนั้นได้เคยสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง เช่น กรณีการรั่วไหลของน้ำมันดิบจากแท่นขุดเจาะของบริษัทบีพีในอ่าวเม็กซิโก เมื่อปี 2553