นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ให้คำมั่นเป็นครั้งแรกในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ว่า ทางธนาคารกลางจะเริ่มพิจารณา "ยุทธศาสตร์ทางออก" จากการผ่อนคลายนโยบายที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายคุโรดะ กล่าวในที่ประชุมรัฐสภาว่า BOJ "จำเป็นต้องอธิบายในลักษณะที่เข้าใจได้" ว่าจะดำเนินการลดขนาดการผ่อนคลายนโยบายการเงินขนานใหญ่ ที่ทางแบงก์ชาติได้ดำเนินการตั้งแต่เขาได้เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม 2556 อย่างไร
ในการแถลงข่าวเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นแถลงไว้ว่าขณะนั้น "ยังเร็วเกินไปในการหารือเรื่องยุทธศาสตร์ทางออก" พร้อมเสริมว่า การหารือในประเด็นดังกล่าวโดยละเอียดอาจทำให้ "ตลาดเงินสั่นสะเทือน"
ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ผ่อนคลายนโยบายการเงินในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนภายใต้การนำของนายคุโรดะ โดยนโยบายของนายคุโรดะ ซึ่งรวมถึงโครงการรับซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ ถูกตลาดเงินเรียกว่าเป็น "คุโรดะบาซูก้า"
เมื่อเดือนมกราคม 2559 ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้มีมติประกาศใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ 0.1% ครอบคลุมเงินสำรองบางส่วนของธนาคารพาณิชย์ จากนั้นเดือนกันยายนปีเดียวกัน แบงก์ชาติได้ประกาศใช้นโยบาย "ควบคุมเส้นโค้งอัตราผลตอบแทน" ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรักษาผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีให้อยู่ระดับประมาณ 0% ด้วยการปรับขนาดการรับซื้อพันธบัตร
นักเศรษฐศาสตร์รายหลายเตือนว่า มาตรการเหล่านี้เสี่ยงกระทบต่อการทำงานของเศรษฐกิจและระบบการเงิน พร้อมเรียกร้องให้ BOJ พิจารณาเรื่องยุทธศาสตร์ทางออกนี้โดยเร็ว