การประชุม 21 ชาติสมาชิกกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยที่ประชุมเห็นพ้องถึงความสำคัญของตลาดที่เปิดกว้างและเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมไม่ได้แสดงจุดยืนร่วมกันในการต่อต้านนโยบายกีดกันทางการค้า (protectionism)
กลุ่มเอเปกประกอบไปด้วย ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ประเทศไทย สหรัฐ และเวียดนาม
ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ ที่ประชุมเอเปกไม่ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 สืบเนื่องมาจากที่ประชุมยังคงมีความคิดเห็นที่ต่างกันในประเด็นนโยบายกีดกันทางการค้า
ทั้งนี้ กลุ่มเอเปกได้ออกแถลงการณ์ในนามของประธานการประชุม แทนการออกแถลงการณ์ร่วม โดยแถลงการณ์ในนามของประธานการประชุมระบุว่า "เราเห็นพ้องต้องกันถึงความสำคัญของตลาดที่เปิดกว้างและเป็นธรรม และเราจะต่อต้านนโยบายกีดกันทางการค้าในทุกรูปแบบ"
ผลการประชุมเอเปกออกมาคล้ายกับการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองบาเดน-บาเดน เยอรมนี วันที่ 17-18 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยการประชุมครั้งนั้น ที่ประชุมไม่ได้แสดงจุดยืนเกี่ยวกับการต่อต้านการกีดกันทางการค้า โดยกลุ่ม G20 ได้ถอดคำว่า "การต่อต้านการกีดกันทางการค้าทุกรูปแบบ" ออกจากแถลงการณ์ฉบับร่างสุดท้าย ซึ่งอาจจะสะท้อนความคลุมเครือของการค้าโลกในอนาคต