นายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงจุดยืนสนับสนุนมาตรการผ่อนคลายขนานใหญ่ที่ทางธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำลังใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อขับเคลื่อนญี่ปุ่นออกจากภาวะเงินฝืด และได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินนโยบายการเงินให้สอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นทางการคลัง
นายเบอร์นันเก้ กล่าวที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารกลางญี่ปุ่นว่า "แม้เศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้น แต่ผมคิดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นยังมีเหตุสมควรในการเดินหน้าบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2%"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้คงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมาตั้งแต่เดือนเม.ย.2556 ซึ่งรวมถึงโครงการรับซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ และการประกาศใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบหลังจากนั้น ด้วยจุดประสงค์เพื่อบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อประมาณปีงบประมาณ 2561
ทว่าญี่ปุ่นยังคงอยู่ห่างจากเป้าหมาย โดยราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นขยายตัวเพียง 0.2% ในเดือนมี.ค.จากปีก่อนหน้า ขณะที่กำหนดเวลาในการบรรลุเป้าหมายก็ถูกเลื่อนไปถึง 5 ครั้ง
นายเบอร์นันเก้ กล่าวว่า "หากนโยบายที่ใช้ปัจจุบันยังไม่เพียงพอแล้วจะเหลือเครื่องมือใดบ้าง ขอบข่ายของธนาคารกลางในการผ่อนคลายเพิ่มเติมนั้นก็ดูอยู่ในวงจำกัด"
"หากจำเป็นต้องมีการกระตุ้นเพิ่มแล้ว ทิศทางที่ดูให้แนวโน้มดีที่สุดน่าจะด้วยการประสานงานระหว่างการคลังกับการเงิน ซึ่ง BOJ ต้องเพิ่มเป้าหมายเงินเฟ้อชั่วคราวตามจำเป็น เพื่อชดเชยผลกระทบจากการใช้จ่ายทางการคลังครั้งใหม่หรือการปรับลดภาษี" ที่มีต่ออัตราส่วนหนี้สินต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ