นายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เปิดเผยในวันนี้ว่า ประเทศเวียดนามกำลังพิจารณาหาทางเลือกที่ดีที่สุดในการร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาซึ่งอยู่ภายใต้ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) หลังจากที่สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าว
นายเหงียนกล่าวในระหว่างการประชุมด้านธุรกิจที่กรุงโตเกียวว่า "เรากำลังอภิปรายกับสมาชิกรายอื่น ๆ เพื่อประเมินหาทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะได้มาซึ่งผลประโยชน์ร่วมกัน แม้สหรัฐจะไม่ได้ร่วมอยู่ใน TPP แล้วก็ตาม" ซึ่งขณะนี้นายเหงียนอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไปจนถึงวันพฤหัสบดีนี้
นายเหงียนกล่าวว่า "เราจะยังคงทำงานร่วมกันเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ผมเชื่อว่าเราต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อความมั่งคั่ง" คำกล่าวของนายเหงียนแสดงให้เห็นถึงจุดยืนของเวียดนามที่มีบทบาทเชิงรุกในการทำให้ข้อตกลง TPP มีผลบังคับใช้
นับตั้งแต่ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ประกาศว่า จะถอนสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกออกจากข้อตกลง TPP บรรดาประเทศผู้ลงนามอีก 11 ประเทศก็เริ่มมีจุดยืนที่แตกต่างกันออกไปเกี่ยวกับประเด็นที่ว่า จะเดินหน้าข้อตกลง TPP ต่อไปหรือไม่หากไม่มีสหรัฐ
ในเดือน พ.ย. นี้ มีกระแสคาดการณ์ว่า ผู้นำจากประเทศผู้ลงนาม 11 ประเทศจะเข้าร่วมงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งมีเวียดนามเป็นเจ้าภาพ
การลงนามข้อตกลง TPP เกิดขึ้นโดยมี ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ สหรัฐ และเวียดนาม เป็นผู้ลงนามเมื่อเดือน ก.พ. 2559 ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจรวมกันราว 40% ของเศรษฐกิจโลก สำนักข่าวเกียวโดรายงาน