สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้อนุมัติร่างกฎหมายเพื่อนำมาใช้แทนกฏหมายดอดด์-แฟรงค์ (Dodd-Frank Wall Street Reform and Consumer Protection Act) ซึ่งเป็นกฏหมายที่รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยใช้กู้วิกฤตการณ์ทางการเงินในอดีต
ร่างกฎหมายนี้มีชื่อว่า "Financial Choice Act" ซึ่งได้รับอนุมัติด้วยเสียงสนับสนุน 233 ต่อ 186 เสียง อย่างไรก็ดี ร่างกฎหมายนี้อาจไม่ได้รับการสนับสนุนเพียงพอในวุฒิสภา เนื่องจากก่อนหน้านี้พรรคเดโมแครตได้แสดงสุดยืนคัดค้าน
ร่างกฎหมาย "Financial Choice Act" จะอนุญาตให้ธนาคารที่มีอัตราส่วนวัดสภาพหนี้สินพื้นฐานที่ 10% หรือสูงกว่า ได้รับการยกเว้นข้อบังคับทางการกำกับดูแลหลายรายการ ซึ่งรวมถึงมาตรฐานกวดขันธนาคารขนาดใหญ่ที่มีในกฏหมายดอดด์-แฟรงค์
ร่างกฎหมายนี้จะปรับโครงสร้างสำนักงานคุ้มครองด้านการเงินของผู้บริโภคสหรัฐ (CFPB) ยกเลิกกฎโวล์คเกอร์ (Volcker Rule) ที่ห้ามไม่ให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินของธนาคารเองไปลงทุนที่มีความเสี่ยง และยุบหน่วยงานขายทอดกิจการอย่างเป็นระเบียบ (Orderly Liquidation Authority) ซึ่งดูแลในเรื่องความเสียหายจากการล้มละลาย
ด้านสำนักงบประมาณสหรัฐ (CBO) คาดการณ์ว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะลดการขาดดุลของรัฐบาลกลางลงได้ 2.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปี 2560-2570
สมาชิกสภาฝั่งพรรครีพับลิกันมองว่าร่างกฎหมาย "Financial Choice Act" จะช่วยหนุนการสร้างงาน เพราะเชื่อว่าข้อบังคับหลายๆรายการในกฏหมายดอดด์-แฟรงค์นั้นได้จำกัดศักยภาพในการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะธนาคารประจำชุมชน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจขนาดเล็ก
อย่างไรก็ดี ทางพรรคเดโมแครตมองว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะก่อให้เกิดความหายนะทางเศรษฐกิจ จากการยกเลิกกฎข้อบังคับที่จำเป็นต่อระบบการเงิน