มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ระบุว่า ผลการเลือกตั้งในอังกฤษ ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาสามัญชน จะเป็นปัจจัยลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
มูดี้ส์ระบุว่า ผลการเลือกตั้งดังกล่าวจะสร้างความซับซ้อน และสร้างความล่าช้าต่อการเจรจาแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมทั้งกระทบความพยายามของรัฐสภาอังกฤษในการแก้ไขปัญหาด้านการคลังของประเทศ
อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ตั้งข้อสังเกตุว่ารัฐบาลอังกฤษอาจพิจารณาทางเลือกในการทำข้อตกลง Brexit ที่จะไม่แยกตัวจากสหภาพยุโรปโดยสิ้นเชิง ซึ่งจะช่วยให้เป็นปัจจัยบวกต่ออันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษในที่สุด
นายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit ของอังกฤษ กล่าวว่า การเจรจากับสหภาพยุโรป (EU) ในประเด็น Brexit อาจไม่สามารถเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้าตามที่กำหนดไว้
นายเดวิสระบุว่า การเจรจาในวันที่ 19 มิ.ย.อาจไม่สามารถเกิดขึ้น เนื่องจากตรงกับกำหนดการที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะทรงมีพระราชดำรัสในวันดังกล่าว
นอกจากนี้ นายเดวิสยังกล่าวว่า การเจรจาของรัฐบาลจะเน้นหนักในประเด็นกระบวนการแยกตัวออกจาก EU ก่อนที่จะเจรจาเรื่องการค้า หลังจากที่เคยระบุก่อนหน้านี้ว่าการหารือทั้ง 2 ประเด็นจะต้องเกิดขึ้นพร้อมกัน
การเปลี่ยนแปลงจุดยืนของรัฐบาลอังกฤษดังกล่าวมีขึ้น หลังการเลือกตั้งในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งพรรคอนุรักษ์นิยมไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาสามัญชน
โฆษกของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า นางเมย์จะไม่ยอมรับข้อตกลง Brexit หากข้อตกลงดังกล่าวสร้างความเสียหายต่ออังกฤษมากกว่าการที่อังกฤษไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆกับ EU
โฆษกระบุว่า นางเมย์หวังว่าการเจรจา Brexit กับ EU จะประสบความสำเร็จ และอังกฤษจะไม่ยินยอมทำข้อตกลงที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศ
โฆษกกล่าวเสริมว่า นายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit แสดงท่าทีชัดเจนว่าแผนการ Brexit ของอังกฤษจะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด