นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ศาลฎีกาสหรัฐจะมีคำพิพากษาเกี่ยวกับการรื้อฟื้นคำสั่งแบนชาติมุสลิมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในเร็วๆนี้ และมีความเป็นไปได้สูงที่ศาลฎีกาจะกลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เขต 9 ก่อนหน้านี้ เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา ศาลฎีกามีสถิติพลิกคำตัดสินของศาลเขต 9 อยู่หลายครั้ง
ภายหลังจากปธน.ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งได้เพียง 6 เดือน เขาก็ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษโดยห้ามพลเมืองจาก 6 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐเป็นเวลา 90 วัน โดยให้เหตุผลว่า ระยะเวลา 90 วันเป็นช่วงเวลาที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบเพื่อป้องกันภัยคุกคามก่อการร้ายที่มาจากประเทศเหล่านี้ ซึ่งประกอบด้วย อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลอุทธรณ์เขต 9 ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยให้มีการยับยั้งคำสั่งแบนของทรัมป์ต่อไป ซึ่งนับเป็นความพ่ายแพ้ในกระบวนการยุติธรรมอีกครั้งของรัฐบาล และส่งผลให้มีการนำคดีดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาเพื่อให้ตัดสินชี้ขาดต่อไป
ถึงแม้หลายฝ่ายจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งแบนของปธน.ทรัมป์ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐ แต่บรรดาผู้สนับสนุนกลับมองว่า ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสควรเดินหน้าบังคับใช้มาตรการแบนนี้ต่อไป เนื่องจากตามกฎหมายแล้ว รัฐบาลสหรัฐมีสิทธิในการกำหนดนโยบายความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ศาลเป็นผู้กำหนดแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่า มีโอกาสสูงที่ศาลฎีกาสหรัฐจะพลิกคำตัดสินของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก่อนหน้านี้ เมื่อพิจารณาจากสถิติในคดีที่ศาลฎีการับพิจารณาต่อจากศาลอุทธรณ์เขต 9 ในอดีตที่ผ่านมา
นักวิจารณ์กล่าวว่า ศาลเขต 9 เป็นศาลที่มีความเป็นเสรีนิยมสูงที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐ และมีผู้พิพากษาจำนวนมากที่ได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตันจากพรรคเดโมแดรต ซึ่งมีแนวคิดเสรีนิยม ดังนั้นบรรดานักวิจารณ์จึงมองว่าผู้พิพากษาเหล่านี้มีพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกับนักเคลื่อนไหวมากกว่าการปฏิบัติตามหน้าที่เพื่อธำรงไว้ซึ่งกฎหมาย
นายฟอร์ด โอคอนเนลล์ นักกลยุทธ์ของพรรครีพับลิกัน กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวโดยคาดการณ์ว่า ศาลฎีกาสหรัฐจะมีคำพิพากษาชี้ขาดในเร็วๆนี้ และมีแนวโน้มสูงที่คำตัดสินจะโน้มเอียงไปทางนายแอนโธนี เคนเนดี ซึ่งเป็นผู้พิพากษาที่มีแนวคิดสายกลางที่สุด
นายโอคอนเนลล์ กล่าวว่า "คำถามที่ต้องถามตัวคุณเองในขณะนี้ก็คือ หากคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีฉบับนี้มาจากอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาแล้ว กฤษฎีกาดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบหรือไม่? ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากในแวดวงกฎหมายมองว่าอาจเป็นเช่นนั้น"
ขณะที่นายแฮนส์ วอน สปาคอฟสกี ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากองค์กรเฮอริเทจ ฟาวน์เดชัน ได้แสดงทัศนะกับสำนักข่าวซินหัวว่า "ในความคิดของผมนั้น ผู้พิพากษา 3 คนของศาลเขต 9 ล้วนได้รับการแต่งตั้งจากบิล คลินตัน ซึ่งต่างก็มีการกระทำที่ไม่ต่างจากทนายความ ไม่ใช่ผู้พิพากษาแต่อย่างใด"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ศาลฎีกาสหรัฐจะมีคำตัดสินอย่างไรนั้น นายสปาคอฟสกี ตอบว่า "หากคณะผู้พิพากษาศาลฎีกาวินิจฉัยโดยยึดคำตัดสินของศาลในอดีตที่ผ่านมา พวกเขาอาจกลับคำตัดสินของศาลอุทธรณ์เขต 9 ในคดีนี้"
เขากล่าวทิ้งท้ายว่า "ผมหวังว่าพวกเขาจะยึดหลักกฎหมายเป็นที่ตั้ง มากกว่าการเล่นเกมการเมือง"
ทั้งนี้ คำสั่งแบน 6 ชาติมุสลิมของปธน.ทรัมป์มีขึ้นในช่วงที่ประเทศพัฒนาแล้วกำลังเผชิญกับภัยก่อการร้ายที่ขยายตัวขึ้นถึง 200% นับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา โดยรายงาน Global Terrorism Index ของสถาบันเศรษฐกิจและสันติภาพ ซึ่งมีการเผยแพร่ในเดือนที่แล้ว ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา มีเหตุโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย พุ่งขึ้นกว่า 900% ในกลุ่มประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)